ยินดีต้อนรับนักธุรกิจออนไลน์ทุกท่าน

กิฟฟารีน คือธุรกิจของคุณ ไม่ใช่ของใคร

แนวความคิดแห่งการเป็นเจ้าของธุรกิจ เจ้าของเว็บไซค์

เว็บไซค์บ้านยูแคนดู ซึ่งใช้สำหรับการติดต่อประสานงาน ในทีมงานบ้านยูแคนดู

ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับ การสร้างสายงาน ขยายงาน สร้างองค์กรเครือข่าย ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ด้วย ระบบการทำงาน และรูปแบบการทำงานของโปรแกรมในเว็บไซค์ ทำให้สมาชิกบ้านยูแคนดู สามารถมีเว็บไซค์สำหรับสร้างธุรกิจเสมือนว่าทุก ๆ คน เป็นเจ้าของเว็บไซค์นี้ เพียงคนเดียว




อาจด้วยว่า ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจเครือข่าย และการเข้าสู่ธุรกิจ มีคนแนะนำ

หรือเราเรียกว่า อัพไลน์ เช่นนั้น จึงทำให้เราตระหนักในการเป็นเจ้าของธุรกิจน้อย

มันไม่รู้สึกเหมือนกับว่า เรามีเงิน แล้วเปิดร้านขายเสื้อผ้าเอง

มันไม่รู้สึกเหมือนกับว่า เรามีเงิน แล้วเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเอง

เปิดร้าน ขายกาแฟ หรือ ขายไอศครีม เอง

หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ เราได้ลงทุน และเปิดกิจการเอง เราจะรู้สึกและ

ตระหนัก ถึงการเป็นเจ้าของเป็นอย่างดี

หากแต่วันนี้ เราเริ่มต้นธุรกิจ กิฟฟารีน บางที มีคนโทรไปแนะนำ

มีคน mail ไปหา เพื่อทักทาย และ แนะนำการทำ การเริ่มต้นธุรกิจ

นั่นทำให้เรารู้สึกเหมือนว่า ก็ใช่นะสิ ก็ฉันทำ แกก็มีรายได้นะสิ

อะไรประมาณนั้น และทำให้เราไม่ตระหนัก ว่า ..

นี่มันเป็นธุรกิจของฉันนะ มันเป็นอีกอาชีพหนึ่ง ที่จะสร้างรายได้ให้ฉันนะ

เช่นนั้น ทำให้เรามองไม่เห็นคุณค่า แห่งการเป็นเจ้าของธุรกิจ เท่าใดนัก

หากแต่เราลองพิจารณาดูให้ดี..

ในชีวิตปกติของเรา ก็มีอัพไลน์ ในชีวิต อยู่มากมาย .. ถ้าเราจะคิด ..

ก็คิดได้

เช่นเราเปิดร้านขายของ รับน้ำโค้ก น้ำแป๊ปซี่มาขาย

เรากลับไม่เคยคิดว่า ก็ใช่นะสิ ฉันขายเยอะ นายก็มีรายได้ ได้รายได้เยอะสิ

แต่เรากลับมองว่า นี่มันของฉัน และฉันขายได้ ..ก็เป็นรายได้ฉัน

ทั้งที่ ผลประโยชน์ก็เอื้อถึง โค๊ก และ เป๊ปซี่ ... เช่นเดียวกัน

และเราเปิดร้านขายเสื้อผ้า วิ่งไปรับของ ถึง ที่ ในเมืองบางกอก

เอามาตั้งขายตลาดนัด ในจังหวัดที่ตัวเองอยู่

มีใครเคยคิดไหมว่า .. ฉันไปรับเสื้อผ้ามา ฉันขายมาก คนขายส่ง ก็มีรายได้มากสิ

เรื่องอะไรฉันจะขายให้เธอละ ... มีไหมใครคิดแบบนี้

เราไม่เคยคิดเลย ... ใช่ไหมครับ ตรงกันข้าม เรากลับ ตั้งหน้าตั้งตา โปรโมท ร้านของตัวเอง

แต่งร้านให้สวย ทำถ้อยคำเชิญชวน ป่าวประกาศ เชิญค่ะ เชิญครับ

เพื่อให้ร้านเราขายดีที่สุด ...

ทั้งที่ความเป็นจริง หากเราจะมอง คนขายส่ง ก็เหมือน มีฐานะ เป็นเจ้านายของเรา เป็น

อัพไลน์ของเรา ในชีวิต แต่เราไม่เคยมองมันต่างหาก ...

...จริงไหม

และหากเราจะมองให้ลึกลงไป ในวิถีชีวิต ..

ชีวิตเราที่ดำรงอยู่ เราเป็นสัตว์สังคม มีอะไรที่เราทำ แล้วไม่กระทบถึงคนอื่นบ้าง

โลกนี้ ดำเนินและหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอยู่ได้ ก็ด้วยการแลกเปลี่ยนกันและกัน

ก็ด้วยการแบ่งปัน เจือจุน เกื้อหนุนกันและกัน ...

หากคนขาย คิดว่า การขายโค้ก ขายเป๊ปซี่ จะสร้างรายได้ให้บริษัท แล้วไม่ขาย

หากไม่มีร้านขายโค้ก , ขายเป๊ปซี่ ให้เราหาซื้อ หากินได้ง่าย ๆ ชีวิตก็ไม่สุนทรีเท่าใดนัก

อยากจะกินสักที ต้องวิ่งไปที่บริษัท ที่ผลิต ชีวิตของคนบ้านนอกอย่างผม คงหาน้ำโค้ก น้ำเป๊ปซี่

กินลำบากเต็มที ...

เกือบทุกสิ่งอย่างที่เราทำ ต่างก็เอื้อ และอำนวย ให้ผู้คนในโลกใบนี้ ได้เกิดประโยชน์

ได้เกิดรายได้ เพื่อทำมาหาเลี้ยงชีพ กันทั้งนั้น .. จริงไหม

เช่นนั้นครับ ...

อัพไลน์เรา เขาก็เป็น คนอีกคนหนึ่ง ที่ตั้งใจทำธุรกิจ กิฟฟารีนของเขา

และแน่นอนครับ คำว่า ธุรกิจ ย่อมต้องมีรายได้ ย่อมต้องมีผลประกอบการ

และธุรกิจ ของเขาจะเติบโตได้ ก็ต่อเมื่อ มีคนในเครือข่ายมากพอ

และคนในเครือข่าย บริโภคสินค้า

แต่เครือข่าย ในกิฟฟารีน พิเศษ และแตกต่างจากธุรกิจ อื่นตรงที่

ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจ ต่างตอบแทน กันและกัน อัพไลน์ เขาจะเติบโต และมีรายได้

ก็ต่อเมื่อเรา เติบโต และมีรายได้

และหากอัพไลน์ คนไหน แนวคิดไม่ผ่าน คิดว่า รอให้คนอื่น ทำงานให้

กินแรง หรือ รอเอาผลประโยชน์จากดาวน์ไลน์อย่างเดียว

ด้วยแผนการตลาดของกิฟฟารีน มันจะไม่ส่งผลให้อัพไลน์คนนั้น เติบโต และมีรายได้

ได้หรอกครับ

เช่นนั้นเราสบายใจได้ เรื่องการเอารัดเอาเปรียบ การกินแรง และ การทำนำบนหลังคน

อย่างที่หลาย ๆ คนได้ไถ่ถามผม ...

มันไม่แปลกหรอกครับ หากเริ่มต้น เราจะรู้สึกตะขิดตะขวง หรืออึดอัด

ในเรื่องผลประโยชน์ ด้วยความรู้สึกว่า ทำไปแล้วอัพไลน์ ก็ได้นะสิ

เพราะมันเป็นสัญชาติญาณพื้นฐานของมนุษย์ ที่ไม่ต้องการถูกเอารัดเอาเปรียบ

แต่เมื่อเราทำไปสักระยะ ที่เริ่มมีรายได้ เริ่มคำนวณค่าคอมมิชชั่นเป็น

เห็นยอดการสั่งซื้อของดาวน์ไลน์ และ ทีมงานใต้ล่าง

แล้วมานั่งคำนวณคอมมิชชั่น .. ผลประโยชน์ที่แต่ละคนได้รับ

เราจะค่อย ๆ ประจักษ์เองว่า แผนธุรกิจ ของกิฟฟารีน ทำให้เราสบายใจในการทำงานอย่างไร

ตอบคำถาม เรื่องลูกโซ่ หรือการเอารัดเอาเปรียบเราได้ มากขึ้น และมากขึ้น ...

จวบจนเมื่อเราเป็นโกลด์สตาร์ และดาวน์ไลน์เราเป็นโกลด์สตาร์ตามมา

เราจะกระจ่างมากขึ้น ในเรื่องรายได้ ผลประโยชน์ กับคำที่ว่า

ใครทำคนนั้นได้ ใครไม่ทำ คนนั้นก็ไม่ได้ .. ไม่ใช่เสือนอนกิน และ คนที่นอนกิน

จะได้แค่นอน แต่ไม่ได้กิน

จวบจนเมื่อ คุณมีรายได้ และได้ไปท่องเที่ยวกับกิฟฟารีน ..

เราจะพบกับคำที่ว่า การเป็นเจ้าของธุรกิจ นั้นคุณจะตระหนัก และรับรู้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

คนที่มีรายได้ คือเรา ไม่ใช่อัพไลน์

คนที่ได้ไปเที่ยว คือเรา ไม่ใช่อัพไลน์

คนที่ได้ผลประโยชน์อย่างเต็มที่คือ เราและครอบครัวเรา ไม่ใช่อัพไลน์

หากอัพไลน์ เขาจะมีรายได้ นั่นก็เป็นสิทธิของเขา เพราะเขาก็ทำธุรกิจของเขา

และเขาเองก็ต้องทำงานของเขา เหมือนที่เราทำของเราเช่นกัน

เช่นนั้น การมีรายได้ของเขา ก็เป็นเรื่องปกติ และสมควรที่เขาจะได้รับ

เช่นเดียวกับที่เราสมควรจะได้รับ จากการทำธุรกิจ ของเราเอง

หากในการเริ่มต้นธุรกิจ เราตระหนักได้ว่า

นี่เป็นธุรกิจของฉัน และนี่เป็นอีกอาชีพของฉัน

ฉันไม่ใช่เพียงดาวน์ไลน์ ของนาย A เท่าน้น

หากตระหนักในการเป็นเจ้าของธุรกิจได้ จะทำให้คุณตื่นเต้น

และตั้งใจ ที่จะเรียนรู้ ตั้งใจที่จะทำงาน และมีแรงผลักดันในการสร้างธุรกิจของตัวเอง

ให้เติบโต .... แม้จะมีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาระหว่างทาง

แต่คุณก็จะไม่ย่อท้อ และไม่หวั่นกับเรื่องราวเหล่านั้น ..

เพราะคุณรู้ดีว่า นี่คือธรุกิจ ของคุณเอง และคุณกำลังสร้างธุรกิจ ของคุณเอง

,,,,,,,,,,,,,,,,

วันนี้ถามและหาคำตอบให้ตัวเองนะครับว่า

คุณรู้สึกการเป็นเจ้าของธุรกิจนี้ มากน้อยเพียงใด



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google Groups
สมัครสมาชิก giffariner
อีเมล:
เยี่ยมชมกลุ่มนี้

I CAN DO YOU CAN DO

กิฟฟารีนออนไลน์ ทำง่าย รายได้ดี