ยินดีต้อนรับนักธุรกิจออนไลน์ทุกท่าน

เติบโตไปกับยูแคนดู ไปด้วยกัน ไปได้ไกล


หลังจากผลักดันโครงการปั้นโกลด์สตาร์ ให้ก่อกำเนิดขึ้นมา


ผมหมายมั่นปั้นมือว่า จะผลักดันโครงการนี้ ให้สำเร็จ ให้เห็นผล

ให้สมาชิกที่ร่วมโครงการ ประสบความสำเร็จกันอย่างจริงจัง และ

ในอนาคต หากผลจากโครงการนี้เดินหน้าไปด้วยดี เราอาจจะใช้

แนวทางของโครงการนี้ เป็นมาตรฐานเบื้องต้น สำหรับผู้คนที่จะร่วมงานกับยูแคนดู ..



แต่สิ่งเหล่านี้จะประสบความสำเร็จได้ เราต้องเข้าใจแนวความคิดของโครงการกันก่อน

และควรรู้บทบาทและหน้าที่ของ ตัวเราเอง ..

โครงการนี้จะสำเร็จได้ เราต้องมีจิต ในการทำงานอยู่ 2 อย่างครับ

หนึ่งคือ จิตใจแห่งการให้ และไม่คิดเล็ก คิดน้อย

สองคือ จิตใจแห่งการแบ่งปัน เพราะในงานนี้เรายิ่งแบ่งปัน ยิ่งช่วยก็ยิ่งโต..

ให้ และ แบ่งปัน สำคัญมากครับ ...

ขึ้นชื่อว่า ธุรกิจเครือข่าย ผมมองว่า งานพื้นฐานที่สำคัญ ที่จะทำให้ธุรกิจ ของเราเติบโต

สองอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ

1 การสร้างเครือข่ายของผู้คน ซึ่งก็รวมทั้งหมดทั้งมวล เกี่ยวกับการสร้าง ทั้ง

การแนะนำ หรือสปอนเซอร์คนใหม่ สอน,แนะนำทีมงานที่เข้ามาสักระยะหนึ่งให้ทำงานเป็น

และเก็บรักษาคนเก่า ๆ ให้กำลังใจ ผลักดันให้เติบโต ซึ่งต้องทำควบคู่กันไป

2 คือการสร้างยอดธุรกิจให้เกิดขึ้น ทั่วไปเขาเรียกว่ายอดขาย แต่ผมขออนุญาตเรียกว่า

ยอดซื้อ เพราะแนวคิดในการทำธุรกิจที่ผมนำเสนอมาตลอด นั่นคือ เราซื้อ ไม่จำเป็นต้องขาย

สองสิ่งนี้สำคัญ และใครทำได้ ก็จะเติบโต มีรายได้จากธุรกิจอย่างแน่นอน ...



ประเด็นแรก การสร้างเครือข่าย ผมจะไม่เขียนถึงระบบการทำงานแบบเก่า ที่เรียกว่า

เพื่อนชวนเพื่อน ญาติชวนญาติ หรือชวนคนรู้จักมาทำงานด้วยกัน ที่เราบัญญัติศัพท์ใหม่

เรียกว่า การทำงานแบบ ออฟไลน์ นะครับ ..



แต่สิ่งที่ผมจะเขียนถึง คือการสร้างเครือข่ายผู้คนในแบบออนไลน์

สร้างเครือข่ายผ่านอินเตอร์เน็ตปัจจุบันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธ ว่าเครือข่ายอินเตอร์เน็ต กำลังคืบคลาน

และค่อย ๆ เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของผู้คนไปแล้ว

หลาย ๆ คนกลับเป็นคนที่ขาดอินเตอร์เน็ตไม่ได้ เสพติดอีเมล์

เสพติดการท่อง อยู่ในโลกไซเบอร์ ไม่ยอมลุกออกจากหน้าจอไปทำกิจกรรมอย่างอื่น

และแน่นอนครับ อนาคตข้างหน้า หลาย ๆ อย่างจะคืบคลานเข้าสู่อินเตอร์เน็ตมากขึ้น ๆ

และชีวิตเราจะมีอินเตอร์เน็ตเป็นองค์ประกอบหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เหมือนที่ปัจจุบัน ชีวิต ทุก ๆ ชีวิตในเมือง จำเป็นต้องมีโทรศัพท์มือถือ

ติดอยู่ข้างกาย เสมือเป็นอวัยวะ ชิ้นที่ 33 ของเราไปแล้ว



ปัจจุบัน การสร้างรายได้จากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือเว็บไซค์ ใครที่รู้ช่องทาง

ใครที่ศึกษา วิธีการหาเงินบนอินเตอร์เน็ต เส้นทางข้างหน้า

ยังมีเม็ดเงินให้เก็บเกี่ยวจากโลกไซเบอร์นี้อีกมากมายเชียวครับ

ไม่ว่าจะเป็นจากการโฆษณา หรือการขายสินค้า ..

ในแต่ละปี จะมีเม็ดเงินวิ่งว่อนอยู่บนอินเตอร์เน็ตนับหมื่นล้านบาท

บ้านยูแคนดู ก็เป็นเว็บไซค์ หนึ่งในหลายล้านเว็บไซค์ ที่วิ่งอยู่บนโลกไซเบอร์

ที่นี่เราเป็นชุมชนคนทำธุรกิจเครือข่ายของบริษัท กิฟฟารีน บริษัทเครือข่าย

ของคนไทย และก่อกำเนิดขึ้นในปี 2539 เปิดดำเนินการมากว่า 14 ปีแล้ว ...



และแน่นอนครับ ที่นี่เราใช้อินเตอร์เน็ตในการทำงาน โดยการออกแบบระบบงาน

ให้สามารถสื่อสาร ระหว่างเพื่อนสมาชิก ในองค์กรเครือข่ายของเรา

สะดวกและง่ายในการติดต่อ ...



คำถามแรกที่ผมมักจะได้รับจาก หลาย ๆ คนคือ

เราจะสร้างเครือข่ายจากอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร และรายได้จะมาจากไหน

ไปรับเงินที่ไหน จ่ายจริงหรือเปล่า วันนี้จะไม่ตอบคำถามเหล่านี้ครับ

เพราะได้เขียนไว้มากพอควรแล้ว แต่จะมาบอกคนเก่า และคนใหม่ว่า

จะดีไหม ถ้าวันนี้เราสามารถทำธุรกิจได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะสร้าง

ทีมงาน หรือสร้างเครือข่าย สร้างรายได้ ได้อย่างไร

แต่เมื่อร่วมงานกับบ้านยูแคนดูแล้ว สบายใจได้ว่า จะสามารถมีทีมงาน มีเครือข่าย

เติบโตและมีรายได้แน่นอน

ด้วยบ้านยูแคนดู มีระบบสนับสนุน ที่จะเป็นแรงช่วยให้

เราสามารถมีองค์กรเครือข่ายได้ กันทุก ๆ คน และยูแคนดูมีทางเลือก

ให้คุณ ๆ ได้ว่าจะร่วมโครงการ นั้นหรือไม่ ....



ข้อตกลงร่วมกันง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ เพื่อผลักดันให้คุณเติบโตไปข้างหน้า

เติบโตได้ มีทีมงานได้ แม้คุณทำโฆษณาบนอินเตอร์เน็ตไม่เป็น

ร่วมทำธุรกิจ กับบ้านยูแคนดู แล้วทำแบบสบายใจ ด้วยการซื้อสินค้าใช้

ส่วนการสร้างทีมงาน สร้างเครือข่ายนั้น

ให้โครงการที่บ้านยูแคนดู และระบบงานที่บ้านยูแคนดูมี

ช่วยสร้างทีมงาน สร้างเครือข่ายให้ จะดีไหมครับ

บทบาทและหน้าที่ของผู้ร่วมงานคนใหม่ หรือสมาชิกใหม่ในบ้านคือ

ร่วมโครงการ ซื้อสินค้าใช้ และร่วมลงโฆษณากับบ้านยูแคนดู

โดยไม่ต้องกังวลว่า จะติดตามสายงานอย่างไร จะพูดกับใครอย่างไรดี



ระหว่างนั้นคุณก็ค่อย ๆ เรียนรู้แผนการตลาดของกิฟฟารีน

ค่อย ๆ เรียนรู้แนวความคิด ของโครงการ และภาพรวมของโครงการ

มันมีประโยชน์ และ มีพลังในการผลักดันความสำเร็จให้กับเราอย่างไรบ้าง

ค่อย ๆ เรียนรู้ ซึ่งผมเชื่อว่า หากคุณใส่ใจจริง ๆ ไม่เกิน 1 เดือนก็จะมองภาพรวม

และแนวความคิดแห่งบ้าน ยูแคนดู และโครงการปั้นโกลด์สตาร์ออกอย่างแน่นอน

บทบาท สำหรับอัพไลน์ที่ทำงานเป็นแล้ว โดยเฉพาะโกลด์สตาร์

ต้องเป็นพี่เลี้ยง ช่วยดูองค์กรเครือข่าย และช่วยต่อสายงานให้กับเครือข่าย

ของตัวเอง ช่วยเป็นพี่เลี้ยงแนะนำแนวทาง และแบ่งปันความรู้ในการทำงาน

เชิญชวนคนใหม่ๆ เข้าสู่โครงการ เพื่อผลักดันให้ทุก ๆ คนประสบความสำเร็จร่วมกัน



เบื้องต้นอาจดูติด ๆ ขัด ๆ แต่เมื่อเราทำความเข้าใจสักพัก เราจะทำงานด้วยความราบรื่น

และสุขใจที่เห็นองค์กร ต่างก็เติบโต ตามวาระและเวลาของตัวเอง

และเมื่อคนในองค์กรเครือข่ายเติบโต ก้าวสู่ตำแหน่งโกลด์สตาร์

บทบาทและหน้าที่ในการดูแลองค์กรตัวเอง ก็ผ่องถ่ายไปสู่เจ้าของเครือข่าย

เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะเติบโตกันทั้งระบบ และแน่นอนครับ คนในองค์กรเครือข่าย

จะเติบโต และมีรายได้ เป็นพาราไดซ์ได้ และเป็นพาราไดซ์คุณภาพ

ที่ได้รับเงินเดือนตามตำแหน่ง ดำรงคุณสมบัติตามที่บริษัท กำหนดไว้ ...

แนวทางการทำงาน ด้วยโครงการนี้จึงเป็นการทำงานง่าย ๆ

เติบโต ง่าย ๆ ด้วยแนวคิดการซื้อสินค้าใช้

และการช่วยให้ดาวน์ไลน์ใต้ล่าง มีทีมงาน มีองค์กรเครือข่าย

เป็นการช่วยกัน ผลักดัน กันทั้งระบบ

คนมาใหม่ก็มีเครือข่าย คนที่อยู่เก่าก็เติบโต และมีรายได้..

แบบนี้ดีไหมครับ

โครงการปั้นโกลด์สตาร์ ...เพิ่มเติม 2

ผมได้พัฒนาโปรแกรม สำหรับรองรับโครงการปั้นโกลด์สตาร์ เรียบร้อยแล้ว


ณ วันนี้ระบบสามารถรองรับการทำงาน การบริหารโครงการได้ และในอนาคตจะทำเพิ่มเติมให้เช่น

มีดาวน์ไลน์ของเรากี่คนที่สมัครร่วมโครงการนี้

มีดาวน์ไลน์กี่สายงาน ที่ร่วมโครงการ , แต่ละสายงานมีกี่คน

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เราบริหารและจัดการโครงการได้ เพื่อผลักดันให้เราเป็นโกลด์สตาร์ หรือพาราไดซ์ได้ในวันข้างหน้า

เราจะเป็นโกลด์สตาร์ได้ ต้องมีสมาชิกที่ร่วมโครงการอย่างน้อย 30 คนขึ้นไป ซึ่งหาก 30 คนนี้บริโภคสินค้า

คนละ 1000 หรือ พันกว่า ๆ ก็จะส่งผลให้เรามียอดธุรกิจถึง 45,000 PV ซึ่งจะทำให้เราเป็นโกลด์สตาร์ได้

และสมาชิกที่เป็นโกลด์สตาร์แล้วสามารถวางแผนขึ้นพาราไดซ์ได้ โดยเราต้องหาสายงานมาร่วมโครงการนี้กับเรา

อย่างน้อย 10 สายงาน และเรียนเชิญดาวน์ไลน์ที่อยู่ในสายงานต่าง ๆ เข้าร่วมโครงการนี้ร่วมกัน

ไม่นาน สายงานแต่ละสายงานนั้นก็จะเป็นโกลด์สตาร์ และเราก็จะเป็นพาราไดซ์

และเืมื่อระยะเวลาผ่านไป สายงานเราจะเติบโตสม่ำเสมอ ประสบความสำเร็จ มีรายได้จากธุรกิจนี้กันทุก ๆ คน

เราจะทำธุรกิจแบบมีความสุข และมีรายได้จากการบริโภค จริง ๆ เหมือนที่ผมเคยเขียนไว้ ...

สมาชิกท่านใด ที่สะดวกโอนเงิน ก็โอนเงินเข้าโครงการได้เลยนะครับ เดือนละ 300 บาทเพื่อผมจะได้รวบรวมไปทำโฆษณา

ประชาสัมพันธ์ โครงการ และเมื่อโอนเงินแล้ว ให้เข้าไปแจ้งยืนยัน ในห้องทำงานส่วนตัว เมนู ปั้นโกลด์สตาร์

และเงินทำโฆษณา นะครับ กรุณาอย่าเพียงโทรแจ้งผม เพราะข้อมูลในการบริหารจัดการค่อนข้างเยอะ

แจ้งเอาไว้ในระบบ ผมจะได้ตรวจสอบและนำเข้าระบบงานต่อไปนะครับ

และในแต่ละเดือน สมาชิกท่านใดที่ซื้อสินค้าส่วนตัวแล้ว ให้บันทึกยอดการซื้อสินค้าของตัวเองเข้าในระบบด้วยนะครับ

ทั้งนี้เราสามารถพิมพ์ยอดการสั่งซื้อสินค้า ของดาวน์ไลน์ได้จากศูนย์กิฟฟารีนทั่วประเทศ อัพไลน์สามารถบันทึกยอดการบริโภค

หรือยอดสั่งซื้อของดาวน์ไลน์ได้ และการบันทึกยอดซื้อนี้ ผมให้เกียรติกับคุณ ๆ บันทึกเองนะครับ...
,,,,,,,,,,,,,,,,,,
สมาชิกที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการผมเรียนเชิญอีกรอบนะครับ ซื้อใช้เดือนละ 1000 บาท พร้อมทำโฆษณาร่วมกันเดือนละ 300

แต่โครงการนี้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยผลักดันให้เราประสบความสำเร็จกันทุก ๆ คนครับ ..

เรียนเชิญเข้าร่วมโครงการด้วยกันนะครับ

โครงการปั้นโกลด์สตาร์ ...เพิ่มเติม 1

ตามที่ผมได้ส่งข่าวเกี่ยวกับโครงการ ปั้นโกลด์สตาร์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการผลักดันให้กับสมาชิก


ได้ก้าวสู่ตำแหน่งโกลด์สตาร์และตำแหน่งสูง ๆ ขึ้นไปให้ทราบแล้วนั้น มีสมาชิกหลายคนที่ได้สอบถามผม

เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพื่อทำโฆษณาร่วมกัน ซึ่งผมได้แจ้งข่าวให้ทราบแล้วว่าเก็บวันละ 10 บาท , เดือนละ 300 หรือ 3600 บาทตลอดโครงการนั้น

มีสมาชิกสอบถามว่า สามารถแบ่งจ่ายได้ไหม หรือต้องจ่ายครั้งเดียวทั้งหมดเลย

ทั้งนี้เนื่องจากว่า มีสมาชิกหลายคนขอแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน และเพื่อสนับสนุนให้กับสมาชิกที่ยังมีเงินทุนน้อย ยังมีรายได้น้อย

สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จึงให้สมาชิกสามารถทยอยจ่ายรายเดือนได้ แต่ขอให้จ่ายภายในไม่เกินวันที่ 10 ของเดือนทั้งนี้

เพื่อผมจะได้รวบรวมเงิน ไปทำโฆษณาให้กับโครงการต่อไป

เมื่อโอนเงินแล้วให้เข้าไปยืนยันการโอนเงิน ในห้องทำงานส่วนตัว เมนู โครงการปั้นโกลด์สตาร์ และ สรุปเงินโฆษณา

และผมได้ทำโปรแกรมรองรับให้เราได้ช่วยกันดู ช่วยกันบริหารโครงการ มีสมาชิกดาวน์ไลน์ในองค์กรคนไหนที่ยังไม่ได้จ่ายเงินบ้าง

เราสามารถตรวจสอบได้ และหากพบว่ายังไม่ได้โอนเงิน กรุณาช่วยติดต่อประสานงานให้กับโครงการ ต่อไปนะครับ

ในแต่ละสิ้นเดือนให้สมาชิกที่ร่วมโครงการได้บันทึกยอดซื้อสินค้าของตัวเอง หรือของดาวน์ไลน์ด้วยก็ได้ เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ หรือตัวชี้วัด

สำหรับการเติบโตในยอดธุรกิจของโครงการที่เรา ร่วมกันผลักดันให้ก่อกำเนิด และเติบโตร่วมกัน ทั้งนี้การบันทึกยอดการซื้อสินค้า

เราให้เกียรติซึ่งกันและกันในการบันทึก ตามความเป็นจริงที่ได้ซื้อสินค้าใช้กันนะครับ

และโครงการนี้เริ่มต้นในเดือน พ.ค. 2553 นี้เลย ท่านใดที่สะดวกโอนเงินค่าทำโฆษณา ก็โอนให้ผมได้เลย โดยจะแบ่งจ่ายรายเดือน

ราย 3 เดือน ราย 2 เดือน หรือใครจะจ่ายหมดทีเดียวทั้งปีเลยก็ได้นะครับ

ทั้งนี้ผมขอความร่วมมืออัพไลน์ โกลด์สตาร์ต้นสายงาน ได้ช่วยกันติดต่อประสานงาน และอำนวยความสะดวก

ให้กับสมาชิกหรือดาวน์ไลน์ในสายงนของตัวเอง ด้วยนะครับ

หากสมาชิกท่านใด ที่ยังไม่มีอัพไลน์โกลด์สตาร์ หรืออัพไลน์โกลด์สตาร์ไม่ได้ร่วมโครงการ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะโครงการนี้

เราจะช่วยเหลือกันและกัน ร่วมแรงร่วมใจกันผลักดัน ให้ทุก ๆ คนเติบโตร่วมกันครับ

หากเราทุก ๆ คนเข้าร่วมโครงการและร่วมแรงร่วมใจกัน เราจะโต และมีรายได้กันทุก ๆ คนครับ

เติบโต ได้ง่าย ๆ บนเส้นทางเครือข่าย ธุรกิจกิฟฟารีน ในแบบออนไลน์

เราจะทำธุรกิจด้วยความสบายใจ และเติบโตได้ ด้วยกลไก และรูปแบบของโครงการที่เราร่วมกันสร้างขึ้นมา
เรียนเชิญสมาชิกที่ยังไม่ได้ร่วมโครงการ เข้าร่วมโครงการนี้ด้วยกัน

สร้างความมหัศจรรย์ให้เกิด กับบ้านยูแคนดู เราทุกคนจะมีรายได้ และเติบโต แน่นอนครับ

โครงการปั้นโกลด์สตาร์

เรื่อง : โครงการปั้นโกลด์สตาร์

เขียน : ธีระพงษ์ นันทะสิงห์ (จ๋อง) เว็บสมาเตอร์บ้านยูแคนดู
วัตถุประสงค์ : สร้างโกลด์สตาร์คุณภาพสู่ความสำเร็จ

   ปกติในธุรกิจเครือข่าย นอกจากเราจะต้องสร้างเครือข่ายผู้คนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องทำนั่นคือ การสร้างยอดขายให้ได้ตามแผนการตลาด หรือได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และโดยส่วนมากแล้ว ผู้คนมักทำธุรกิจเครือข่ายในรูปแบบการขาย การนำเสนอสินค้าเพื่อขาย แต่รู้ไหมครับ วันนี้ เราสามารถทำธุรกิจเครือข่าย ด้วยวิธีการซื้อสินค้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องขายสินค้า เราก็สามารถสร้างธุรกิจให้เติบโต และมีรายได้ มีกำไรจากการซื้อสินค้าใช้ได้ การทำธุรกิจเครือข่ายในมุมมองของผม ผมมองว่า การสร้างธุรกิจในลักษณะการซื้อสินค้าใช้ ง่ายกว่าการทำธุรกิจในแบบขายสินค้าเพื่อสร้างยอด เหตุผลเพราะว่า คงไม่มีใครซื้อสินค้าไม่เป็นกระมัง เกิดมาพอจับเงินได้ก็ซื้อขนมกินเองได้ เติบโตมา สบู่ ยาสีฟัน ก็ซื้อเองได้ ในขณะที่การขาย โดยเฉพาะการขายในแบบธุรกิจเครือข่าย ที่ไม่สักแต่ว่าขายๆ แต่ต้องอาศัยเทคนิค และวิธีการนำเสนอ ซึ่งจะต้องได้รับการอบรม หรือได้รับการถ่ายทอดวิธีการที่ถูกที่ควร อีกทั้งคนๆนั้น ต้องกระตือรือร้นในการทำธุรกิจอยู่เสมอ ทำให้หลายๆคน ที่ทำธุรกิจเครือข่าย สอบไม่ผ่านกระบวนการขาย หรือกระบวนการสร้างยอด ทำธุรกิจได้ไม่เติบโต อย่างที่ใจหวัง เช่นนั้นจะดีไหมครับ หากวันนี้เราไม่ต้องกังวล ในเรื่องการสร้างยอด หรือไม่ต้องกังวลเรื่องการขายสินค้า แต่เราเพียงแค่ซื้อสินค้าใช้เป็นประจำในแต่ละเดือน ก็สามารถสร้างรายได้ และประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายได้ มีรายได้จากการทำธุรกิจ เดือนละหลายๆหมื่นบาท จนถึงเป็นแสนบาท ภายในระยะเวลา 3 – 5 ปี และเป็นล้าน ภายใน 10 ปีได้

   และหากเรานำแผนการตลาดของกิฟฟารีน ออกมาตีแผ่และวิเคราะห์เจาะลึกกันแล้ว เราจะพบว่า ทุกความสำเร็จ มีองค์ประกอบแห่งความสำเร็จเล็กๆ เบื้องต้น นั่นคือโกลด์สตาร์ เป็นองค์ประกอบทั้งสิ้น ดังนั้นในมุมมองของผม หากเราสามาถทำตัวเองให้เป็นโกลด์สตาร์ได้ ทำให้ทีมงานหรือองค์ดาวน์ไลน์ของเราเป็นโกลด์สตาร์ได้ เราก็จะสามารถเป็นได้ทุกตำแหน่งในกิฟฟารีน และเป็นการก้าวขึ้นสุ่ตำแหน่งต่างๆ อย่างมีคุณภาพ มียอดธุรกิจที่เติบโตสมควรตามตำแหน่งแห่งการดำรงนั้น และแน่นอน เราจะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย ด้วยรอยยิ้ม ไร้ซึ่งแรงกดดัน และไร้ซึ่งการทำธุรกิจแบบไล่งับยอดเพื่อเอาตัวรอดไปเดือนๆ หนึ่ง เท่านั้น

   แนวคิดแห่งการดำเนินธุรกิจของบ้านยูแคนดู เราจะดำเนินธุรกิจด้วยสายใยแห่งมิตรภาพ และสมาชิกแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องขายสินค้า แค่ซื้อใช้ก็สามารถทำธุรกิจได้แล้ว กอปรกับปัจจุบันมีสมาชิกใหม่ๆ ได้ลงชื่อเข้าเป็นสมาชิกบ้านยูแคนดูทุกๆ วัน คนที่เข้าร่วมธุรกิจกับบ้านยูแคนดูมาก่อนหน้า ที่ดำเนินธุรกิจเป็น ต่างก็เติบโตไปบนเส้นทางสายหวังและฝันนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคน ที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี

   ด้วยอยากเห็นสมาชิกแห่งบ้านยูแคนดู ประสบความสำเร็จอย่างที่ตัวเองวาดและหวังไว้ ผมจึงได้กำเนิดโครงการ “ปั้นโกลด์สตาร์” เพื่อเป็นเครื่องมือ และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันสมาชิก ที่ตั้งใจทำงานจริง ให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยรายละเอียดในการดำเนินการ โครงการ ปั้นโกลด์สตาร์ มีดังนี้

กุญแจสำคัญที่จะผลักดันให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ มี 2 ข้อ

1. แต่ละคนที่ร่วมโครงการนี้ซื้อสินค้าใช้อย่างน้อย 1,000 คะแนนต่อเดือน

2. แต่ละคนหาคนมาร่วมโครงการโดยติดต่อตัวเองเดือนละ 1 คน เป็นอย่างน้อย

แนวทางการดำเนินการของบ้านยูแคนดู

สมาชิกที่ลงชื่อเข้าร่วมโครงการ ปั้นโกลด์สตาร์ กับบ้านยูแคนดู มีสิ่งที่ต้องทำ มีดังนี้

1. ซื้อสินค้าใช้ตามข้อตกลง โครงการ ปั้นโกลด์สตาร์ 1,000 คะแนนต่อเดือน

2. ร่วมวางแบนเนอร์หรือทำโฆษณาร่วมกับบ้านยูแคนดู เดือนละ 300 บาท

3. ร่วมโคงการเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี

4. สมาชิกที่ร่วมโครงการ ต้องเรียนรู้ที่จะดูแล องค์กรชั้นลูก หรือสายงานติดตัว ของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะนำเสนอ แนวความคิดของบ้านยุแคนดู สู่องค์กรของตัวเอง

5. อัพไลน์โกลด์สตาร์ต้นสายงานเป็นผู้ดูแล และช่วยเหลือดาวน์ไลน์ที่เข้าร่วมโครงการ

การซื้อสินค้าใช้

การซื้อสินค้าใช้ เป็นพันธะสัญญาระหว่างกันและกัน เพราะในความเป็นจริง ในการดำเนินธุรกิจกิฟฟารีน บริษัท กิฟฟารีน ไม่ได้บังคับ ว่าจะต้องซื้อสินค้าเดือนละเท่าไหร่ ซื้อหรือไม่ซื้อเป็นสิทธิของผู้ดำเนินธุรกิจ ของแต่ละบุคคล แต่ในเมื่อเรามีโครงการ ปั้นโกลด์สตาร์ ร่วมกัน นี่เป็นพันธะสัญญาระหว่างเราในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ทั้งนี้ ข้อดีของการซื้อสินค้าใช้ มีหลายประการด้วยกัน นอกจากเราจะได้ใช้สินค้า รู้จักสินค้าที่เราทำธุรกิจแล้ว ยอด 1,000 คะแนน ที่เราซื้อ ยังใช้เป็นยอด ในการรักษายอดในส่วนของประกันอุบัติภัย รวมถึงเป็นการรักษายอดเพื่อรับเงินปันผลจากบริษัท ทั้งนี้ สมาชิกที่ร่วมโครงการนี้ จะมียอดธุรกิจ ตามจำนวนดาวน์ไลน์ที่เข้าร่วมโครงการ คูณ 1,000 คะแนน เช่นถ้าเรามีดาวน์ไลน์ เข้าร่วมโครงการนี้ 10 คน ยอดธุรกิจโดยรวมของเรา ณ เดือนนั้น จะมี 10,000 คะแนน ยืนพื้นแน่นอน และด้วยการซื้อสินค้านี้ จะทำให้เราทำธุรกิจด้วยความสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องยอด ไม่ต้องทำธุรกิจแบบไล่งับยอดเมื่อวันปิดยอดมาถึง และเมื่อเป็นโกลด์สตาร์ จะเป็นโกลด์สตาร์คุณภาพ ที่สามารถสะสมคะแนนเพื่อรับเงินโบนัส 60 ,000 บาท ได้อย่างง่ายดาย

การทำโฆษณาหรือวางแบนเนอร์

เนื่องจากบ้านยูแคนดู ดำเนินธุรกิจกิฟฟารีน บนอินเตอร์เน็ต ดังนั้น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องทำ เพราะถ้าไม่มีการโฆษณา ก็จะไม่มีใครรู้จักเว็บไซต์ของเรา ไม่รู้จักธุรกิจของเรา ทำให้เราเติบโตไม่ได้ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากสมาชิกที่ร่วมโครงการ ร่วมทำโฆษณาหรือวางแบนเนอร์ร่วมกัน เดือนละ 300 บาท หรือวันละ 10 บาท ทั้งนี้จะมีการรวบรวมเงินดังกล่าว ทำโฆษณาตามเว็บไซต์ต่างๆ ระยะยาว เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ดึงดูดผู้คนเข้าร่วมธุรกิจกับเราต่อไป ทั้งนี้การจ่ายเงินค่าทำโฆษณา ให้จ่ายครั้งเดียวเมื่อเข้าร่วมโครงการ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,600 บาท

การต่อสายงานและการเติบโต

   การต่อสายงานจะต่อติดตัวให้สมาชิกที่ร่วมโครงการอย่างน้อยเดือนละ 1 คน แต่ไม่เกิน 10 คน หรือ 10 สายงานรอบตัวที่เข้าร่วมโครงการนี้ ทั้งนี้เพราะสายงานเพียง 10 สายงานที่เข้าร่วมโครงการนี้ ก็เพียงพอที่จะผลักดันให้คุณสามารถดำรงตำแหน่งพาราไดซ์ได้ในวันข้างหน้า ทั้งนี้ จะได้รับการต่อสายงานให้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีคนใหม่สมัครเข้ามาทำธุรกิจกับบ้านยูแคนดู โดยผ่านโครงการนี้หรือไม่ ผมไม่สามารถการันตี หรือรับรองได้ว่าจะมีแน่นอน แต่นี่เป็นแนวทางแห่งการดำเนินธุรกิจ และแนวทางการเติบโตของโครงการ ทั้งนี้สมาชิกใหม่ ที่สมัครเข้าในบ้านยูแคนดูผ่านโครงการนี้ จะถูกเรียนเชิญให้เข้าร่วมโครงการ ได้มีจำนวนองค์กรเครือข่าย เพื่อให้โครงการได้บรรลุวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ ภายใน 1 ปี ต้องมีองค์กรเครือข่ายอย่างน้อย 45 คน เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งโกลด์สตาร์

   ทั้งนี้การเติบโตของสายงานเราทุกคนที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องช่วยกันผลักดัน ให้ดาวน์ไลน์มีองค์กรสายงานให้ได้ โดยเราต้องช่วยกันต่อสายงานให้ และช่วยกันนำเสนอแนวคิด ในโครงการนี้ ให้กับคนใหม่ที่สมัครเข้ามา และดาวน์ไลน์ที่เราได้มาจากโครงการนี้ จะต่อติดตัวเพียง 10 สายงานเท่านั้น ที่เหลือจากนั้นจะต่อให้ดาวน์ไลน์สาบล่าง เพื่อผลักดันให้ดาวน์ไลน์ประสบความสำเร็จต่อไป การต่อสายงานจะต่อให้ตามลำดับก่อนหลังที่เข้าร่วมโครงการ และแต่ละคนจะได้รับการต่อสายงานให้ครบ 10 สายงานติดตัว และสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการภายใน 1 ปีนั้น ต้องมีองค์กรสายงานที่เข้าร่วมโครงการนี้ อย่างน้อย 20 คน เพื่อให้เรามีกำไรจากการซื้อสินค้าใช้ ทั้งนี้ เมื่อเรามีสมาชิกเข้าร่วมโครงการ 20 คน เราจะมียอดธุรกิจรวมทั้งตัวเราด้วย 21,000 คะแนน คิดเป็นรายได้เบื้องต้น 21,000 x 5% = 1,050 บาท นั่นเท่ากับว่า เราได้ใช้สินค้าฟรีในแต่ละเดือน

สรุปค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ (1 ปี)

ซื้อสินค้าใช้เดือนละ 1,000 คะแนน ประมาณ 1,000 บาท

ค่าโฆษณาเดือนละ 300 บาท

รวม 1,300 บาทต่อเดือน คิดเป็น 15,600 บาทต่อปี

เมื่อสิ้นสุดโครงการ 1 ปี

   หากโครงการนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่เราทำร่วมกัน เราต้องมีสมาชิกองค์กรดาวน์ไลน์ ในสายงานอย่างน้อย 45 คนที่เข้าร่วมโครงการ และจะส่งผลให้เรามียอดธุรกิจ อย่างน้อยเดือนละ 45,000 คะแนน คิดรายได้คร่าวๆเบื้องต้น ประมาณได้ ดังนี้ 45,000 x 10% = 4,500 บาทต่อเดือน

แต่ถ้าการเติบโตตามรูปแบบการทำงานจริง องค์กรของเราจะเติบโตในรูปแบบทวีคูณ คือ

เดือนที่ จำนวนองค์กร ยอดธุรกิจ รายได้ (ประมาณ 10%)


1                   1                 1,000                 100


2                  2                  2,000                 200


3                  4                  4,000                 400


4                 8                   8,000                 800


5                16                16,000                1,600


6                32                32,000                3,200


7                64               64,000                 6,400


8              128             128,000               12,800


9              256             256,000               25,600


10            512            512,000                51,200


11          1,024        1,024,000              102,400


12          2,048        2,048,000              204,800


   ตามตาราง เป้นรูปแบบการเติบโตตามโครงการที่สมบรูณ์ เราจะเห็นได้ว่าเราสามารถสร้างธุรกิจให้มีมูลค่านับล้านบาท ได้ในระยะเวลาเพียง 1 ปี แต่นั่นคืออุดมคติเกินไป ในความเป็นจริง หากเราสามารถผลักดันให้โครงการนี้เติบโตเพียง 50% ก็เพียงพอสำหรับรายได้ ที่จะใช้ในการดำรงชีวิต และน่าจะตอบสนองความสำเร็จในเบื้องต้นให้กับเราทั้งหลายได้แล้วละครับ ทั้งนี้ ความสำเร็จของโครงการนี้ ต้องเกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาชิกแห่งบ้านยูแคนดู ที่ร่วมโครงการ และการดูแลเอาใจใส่ในการดูแลองค์กรสายงานของตัวเราเองทุกคน

   จากตาราง เราจะเห็นได้ว่า ถ้าอัตราการเติบโต 100% เราจะเป้นโกลด์สตาร์ในเดือนที่ 7 ของการเข้าร่วมโครงการ แต่ถ้าอัตราการเติบโต เติบโตเพียง 50% เราจะเป็นโกลด์สตาร์ในเดือนที่ 8 หากแต่ความเป็นจริงในการทำธุรกิจ เราอาจเป็นโกลด์สตาร์ ก่อน 7 เดือน หรือหลัง 8 เดือน ก็เป็นได้

และโครงการนี้ ไม่สามารถรับรองว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จได้ ถ้าเราไม่ช่วยกัน ไม่รักษาพันธะสัญญาในการซื้อสินค้าใช้ ไม่สม่ำเสมอกับการทำงาน แต่สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นคือ อย่างน้อยๆ ถ้าไม่เป็นโกลด์สตาร์ ภายใน 1 ปี เราจะได้กำไรจากการซื้อสินค้าใช้

สำคัญส่งท้าย

เหมือนว่าโครงการที่เขียนขึ้นมานี้ บทสรุปสำคัญและจิตวิญญาณที่จะผลักดันให้โครงการนี้ดำเนินและเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้ น่าจะอยู่ในหัวข้อนี้กระมัง เริ่มต้นที่แต่ละคนที่เข้าร่วมโครงการ จะยังไม่มีองค์กรหรือดาวน์ไลน์เข้ามาร่วมโครงการ เมื่อเราซื้อสินค้าใช้ ยอดการบริโภคสินค้า หรือยอดธุรกิจโดยรวม จะมียอดของเราคนเดียว และเมื่อวันเวลาผ่านไป ที่เราค่อยๆ มีดาวน์ไลน์เข้ามาร่วมโครงการ จึงจะมียอดธุรกิจเพิ่มขึ้น เช่นนั้นในระหว่างการดำเนินโครงการ ในระยะแรกๆ เราอาจจะมองว่า ซื้อสินค้าใช้แล้ว ไม่เห็นได้กำไรอะไรเลย รอให้มีองค์กรมากๆ ก่อน ค่อยซื้อได้ไหม หากแต่ละคนคิดแบบนี้ ก็จะไม่เกิดการซื้อสินค้าใช้เลย นั่นเท่ากับว่าโครงการที่กำเนิดขึ้นมา ก็เป็นเพียงโครงการลมๆแล้งๆ ไม่สามารถผลักดันให้เรามีรายได้จากการดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังได้ ถึงแม้ในระยะแรกจะมีเราเพียงคนเดียวที่เข้าร่วมโครงการ แต่ก็ให้คำนึงถึงพันธะสัญญา ของโครงการนี้ไว้เถอะครับ เพราะสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ ก็เริ่มจากหนึ่งด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้าแต่ละคนที่เข้าร่วมโครงการมีการซื้อสินค้าใช้ จะทำให้แต่ละคนที่เข้ามา จะค่อยๆก่อกำเนิดยอดธุรกิจ และรายได้เพิ่มขึ้นตามจำนวนเครือข่าย ตามวัตถุประสงค์ที่ได้เขียนโครงการไว้ จะทำให้เราเห็นภาพความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จร่วมกัน และสิ่งหนึ่งที่สำคัญยิ่ง ให้เรามองระยะยาว และดำเนินธุรกิจด้วยวิถีแห่งการให้ และผลักดันองค์กรของเราให้ประสบความสำเร็จให้ได้ สำหรับตัวเราแล้ว เมื่อองค์กรเราประสบความสำเร็จ แน่นอนครับ ความสำเร็จของตัวเราย่อมตามมา และจากแผนการตลาดของกิฟฟารีน สิ่งที่เราลงมือช่วยกันผลักดัน จะส่งผลให้เรามีรายได้จากการดำเนินโครงการ และประสบความสำเร็จ บนเส้นทางแห่งกิฟฟารีน และด้วยแผนผังองค์กรที่ผมวางสายงานไว้ให้คุณรอบตัว 10 สายงาน จะส่งผลให้ในวันข้างหน้า เมื่อ 10 สายงานนั้นเป็นโกลด์สตาร์ คุณเองก็จะก้าวสู่ตำแหน่งพาราไดซ์ได้เช่นกัน เช่นนั้นถ้าเราเชื่อมั่นในโครงการที่จะช่วยกันผลักดัน อย่างจริงจัง และทุกคน ถือพันธะสัญญาแห่งการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ผมเชื่อเหลือเกินว่าเราจะค่อยๆ พบกับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกิฟฟารีน ในรูปแบบออนไลน์ ร่วมกับบ้านยุแคนดูได้อย่างแน่นอน

Intensive Entrepreneurs 2010

ความท้าทายและผลประโยชน์สำหรับ นักธุรกิจระดับโกลด์สตาร์ ถึงแซทเทิร์น ที่เปี่ยมศักยภาพในการสร้างทีมงาน พร้อมทั้งสามารถสร้างรายได้ที่สูงในระยะเวลาสั้นๆ

รางวัลการแข่งขัน : ท่องเที่ยวต่างประเทศ ฮ่องกง / สิงคโปร์ / เกาหลี

กติกาการแข่งขัน

1. ระยะเวลาการแข่งขัน 4 รอบจำหน่าย
2. ไม่จำกัดรอบจำหน่ายจะเริ่มการแข่งขัน รอบจำหน่ายใดก็ได้ และนับจนครบ 4 รอบจำหน่ายติดต่อกัน
3. ผู้แข่งขันจะต้องมียอดธุรกิจในยอดทีมกลางโกลด์สตาร์ รอบจำหน่ายละ 200,000 pv และสร้างดาวน์ไลน์ GS Active อย่างน้อย 2 รหัส ในทุกรอบจำหน่าย
4. ดาวน์ไลน์ GS Active ที่เกิดขึ้นในรอบที่ผ่านมาอย่างน้อย 1 รหัส จะต้องมียอดทีมกลาง โกลด์สตาร์ 200,000 และมีดาวน์ไลน์  GS Active 1 รหัส ทุกรอบจำหน่าย จนผู้แข่งขันสิ้นสุดการแข่งขัน
5. จำนวนผู้ชนะการแข่งขัน ไม่จำกัดจำนวน
6. ผู้ชนะการแข่งขันที่ได้รับรางวัลทุกรางวัล ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่ารางวัล
7. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาคะแนนบุคคลที่จะชนะการแข่งขัน ต้องมีการสร้างทีมงานที่แท้จริง ต้องไม่ซื้อสินค้ากักตุน ไม่วางขายตัดราคา ไม่ทำธุรกิจอื่นที่เป็นหรือใกล้เคียงธุรกิจขายตรงที่ไม่ใช่ธุรกิจกิฟฟารีน ไม่รบกวนองค์กร และไม่เป็นปรปักษ์ต่อบริษัทฯ
8. ผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นผู้นำระดับต้นที่ขยายงานโดยแท้จริง หากตรวจสอบพบว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงกว่านี้ แต่ใช้ชื่อผู้อื่นในการทำงานเพื่อหวังผลในการแข่งขัน ถือเป็นโมฆะ
9. ผู้ชนะการแข่งขัน 1 รหัส มีสิทธิ์ในการเดินทางไปต่างประเทศได้ 1 ท่าน
10 หากไม่สามารถเดินทางได้ ถือว่าสละสิทธิ์ ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่น หรือเปลี่ยนรางวัลเป็นเงินสด
11. การตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นสิ้นสุด

The Best Consumer Relations Rewards 2010

ความท้าทายและผลประโยชน์สำหรับ นักธุรกิจระดับโกลด์สตาร์ ถึงแซทเทิร์น ที่มีศักยภาพด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับเครือข่ายที่มีกำลังซื้อสูง

รางวัลการแข่งขัน : ท่องเที่ยวต่างประเทศ ฮ่องกง / สิงคโปร์ / เกาหลี

กติกาการแข่งขัน

1. ใช้ระยะเวลาการแข่งขัน 6 รอบจำหน่าย
2. ไม่จำกัดรอบจำหน่าย จะเริ่มการแข่งขันรอบจำหน่ายใดก็ได้ และนับไปจนครบ 6 รอบจำหน่าย ติดต่อกัน
3. ยอดธุรกิจในยอดทีมกลางโกลด์สตาร์ 6 รอบจำหน่าย รวม 1,200,000 pv หรือเฉลี่ยรอบละ 200,000 pv
4. ใน 6 รอบจำหน่าย ต้องมี GS Active จำนวนอย่างน้อย 6 รหัส
5. จำนวนผู้ชนะการแข่งขัน ไม่จำกัดจำนวน
6. ผู้ชนะการแข่งขันที่ได้รับรางวัลทุกรางวัล ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่ารางวัล
7. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาคะแนนบุคคลที่จะชนะการแข่งขัน ต้องเป็นการขยายงานดูแลผู้บริโภคที่แท้จริง คือ ต้องไม่ซื้อสินค้ากักตุน ไม่วางขายตัดราคา ไม่ทำธุรกิจอื่นที่เป็น หรือใกล้เคียงธุรกิจขายตรงที่ไม่ใช่ธุรกิจกิฟฟารีน ไม่รบกวนองค์กร และไม่เป็นปรปักษ์ต่อบริษัทฯ
8. ผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นผู้นำระดับต้นที่ขยายงานโดยแท้จริง หากตรวจสอบว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงกว่านี้ แต่ใช้ชื่อผู้อื่นในการทำงานเพื่อหวังผลการแข่งขัน ถือเป็นโมฆะ
9. ผู้ชนะการแข่งขัน 1 รหัส มีสิทธิ์ในการเดินทางไปต่างประเทศ 1 ท่าน
10. หากไม่สามารถเดินทางได้ ถือว่าสละสิทธิ์ ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่น หรือเปลี่ยนรางวัลเป็นเงินสด
11. การตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นสิ้นสุด

SALES CONTEST 2010

ระยะเวลาการรับสมัคร
เปิดรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2553 และปิดรับสมัครในวันที่ 15 มิถุนายน 2553

กติกาการแข่งขัน
1. ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จะต้องเป็นผู้บริหารระดับโกลด์สตาร์ขึ้นไป
2. ค่าสมัคร 250 บาท
3. ผู้สมัครต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนแนบมาพร้อมกับใบสมัครในวันสมัคร โดยสามารถสมัครได้ที่ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทุกสาขาทั่วประเทศ

ติวข้อสอบผ่านดาวเทียมพร้อมกันทั่วประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 2553
กรุงเทพ และปริมณฑล ณ ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนพระประแดง และบางแค
ต่างจังหวัด ณ ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนที่มีสัญญาณดาวเทียมที่ท่านสะดวกใช้บริการ

การแข่งขัน จะแบ่งเป็น 3 รอบ ดังนี้
รอบที่ 1 สอบข้อเขียนพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2553
ภาคเหนือตอนบน  แข่งขัน ณ โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ จ.เชียงใหม่
ภาคเหนือตอนล่าง  แข่งขัน ณ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  แข่งขัน ณ อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น
ภาคตะวันออก  แข่งขัน ณ อาคารศูนย์เรียนรวม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ภาคตะวันออก วิทยาเขตบางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ภาคใต้ตอนบน  แข่งขัน ณ หอประชุมอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี
ภาคใต้ตอนล่าง  แข่งขัน ณ อาคารภูเก็ต มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จ.สงขลา
กรุงเทพ ปริมณฑล และภาคกลาง  แข่งขัน ณ ศูนย์การสอบ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี

เวลาสอบ 13.00 - 16.00 น.
รางวัลประกอบด้วย ผู้ที่สอบข้อเขียนได้เกิน 50% จะได้รับเข็มเกียรติยศ และประกาศนียบัตรรับรองความสามารถ และนำทุกรายชื่อที่ผ่านเกณฑ์ 50% ร่วมจับฉลากชิงรางวัล(ของที่ระลึก) การจับฉลากจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2553 (รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ)

GIFFARINE SALES CONTEST CAMP
วันที่ 3- 4 กรกฎาคม 2553 (2 วัน 1 คืน) ณ โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน จ.ชลบุรี โดยจะคิดคะแนนสูงสุดจากการสอบข้อเขียนแต่ละภูมิภาค ภูมิภาคละ 10 ท่าน / กรุงเทพ และปริมณฑล 20 ท่าน รวม 60 ท่าน จะได้รับการเข้าอบรมสัมนาพิเศษ ในโครงการ Giffarine Sales Contest Camp

รอบที่ 2 (ชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค)
บัตรเข้างานจำหน่ายในราคา 300 บาท ยกเว้น ผู้สมัครสอบข้อเขียน และนักธุรกิจที่มีบัตรทอง สามารถใช้สิทธิ์เข้าชมได้ฟรี (เฉพาะในโซนภาคที่สมัครสอบข้อเขียนเท่านั้น)
ภาคใต้  วันอาทิตย์ ที่ 11 กรกฎาคม 2553  ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี
กรุงเทพ ปริมณฑล และภาคกลาง  วันอาทิตย์ ที่ 18 กรกฎาคม 2553  ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
ภาคเหนือ   วันอาทิตย์ ที่ 25 กรกฎาคม 2553  ณ โรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง จ.เชียงใหม่
ภาคตะวันออก  วันอาทิตย์ ที่ 1 สิงหาคม 2553  ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ พัทยา จ.ชลบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  วันอาทิตย์ ที่ 15 สิงหาคม 2553  ณ โรงแรมเจริญธานีปริ๊นเซส จ.ขอนแก่น

เวลาการแข่งขัน 09.00 - 17.00 น.

รางวัลประกอบด้วย
รางวัลที่ 1 เงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (ภูมิภาค 1 รางวัล / กรุงเทพ-ปริมณฑล 2 รางวัล)
รางวัลที่ 2 เงินสด 15,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (ภูมิภาค 1 รางวัล / กรุงเทพ-ปริมณฑล 2 รางวัลรางวัลที่ 3 เงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ (ภูมิภาค 1 รางวัล / กรุงเทพ-ปริมณฑล 2 รางวัล)

รางวัลที่ 4 เครื่องกรองน้ำ เชพ มิเนอรัล พ็อท และประกาศนียบัตรแสดงความสามารถ (ภูมิภาค 7 รางวัล / กรุงเทพ-ปริมณฑล 14 รางวัล)

รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ
1. แข่งขันในวันอาทิตย์ ที่ 22 สิงหาคม 2553 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพ
2. บัตรจำหน่ายในราคา 250 บาท

รางวัลประกอบด้วย
รางวัลที่ 1 เงินสด 120,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ และท่องเที่ยวยุโรปตะวันตก 3 ประเทศ (1 รางวัล)
รางวัลที่ 2 เงินสด 60,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ และท่องเที่ยวยุโรปตะวันตก 3 ประเทศ (1 รางวัล)
รางวัลที่ 3 เงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ และท่องเที่ยวยุโรปตะวันตก 3 ประเทศ (1 รางวัล)
รางวัลชมเชย เงินสด 5,000 บาท พร้อมเครื่องกรองน้ำ 1 เครื่อง (15 รางวัล)

การวิเคราะห์ผิว

เพื่อการดูแลผิวหน้าที่ถูกต้องให้เหมาะกับแต่ละผิว เราจึงควรทราบว่า ผิวแต่ลักษณะมีความแตกต่างกันอย่างไร

สิ่งที่ควรสังเกต
- คุณลักษณะของผิว
- สีผิว
- ขนาดรูขุมขน
- ริ้วรอย
- เส้นเลือดฝอย
- กระ ฝ้า จุดด่างดำ
- สิวอักเสบ และสิวอุดตัน

คุณลักษณะของผิว
ประเภทของผิวคือสิ่งที่แต่ละคนมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด ตามลักษณะของเขื้อชาติ และพันธุกรรม เราแยกประเภทผิวออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ

1. ผิวแห้ง คือผิวหน้าที่มีความแห้งตลอดทั่วทั้งใบหน้า ไม่ปรากฎความมันวาว รูขุมขนขนาดเล็ก อาจมีริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งกร้าน เช่นบริเวณหน้าผาก จมูก หรือข้างแก้ม ลักษณะเด่นของผิวแห้ง คือ
- ต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเครื่องสำอางกลุ่มมอยซ์เจอไรเซอร์
- ดูแลได้ง่ายกว่าผิวมัน
- เกิดริ้วรอยอันเกิดจากความแห้งกร้านได้ง่าย
- ผิวแห้ง แตกเป็นขุย
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทโฟมล้างหน้าและโทนเนอร์

2. ผิวผสม ผิวมันบริเวณทีโซน และแห้งหรือธรรมดาบริเวณข้างแก้ม เมื่อสังเกตใกล้ๆ จะเห็นรูขุมขนกว้างบริเวณจมูก ข้างแก้ม และคาง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ต้องดูแลผิวใน 2 บริเวณที่แตกต่างกัน คือต้องไม่บำรุงมากเกินไปบริเวณทีโซนเนื่องจากอาจทำให้เกิดสิวได้ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณแก้ม หรือบริเวณอื่นๆ ที่รู้สึกแห้งตึง

3. ผิวมัน ผิวมีความมันวาวทั่วทั้งใบหน้า สังเกตเห็นรูขุมขนกว้างได้เกือบทั่วทั้งหน้า ควรเน้นการดูแลผิวในขั้นตอนการทำความสะอาดเพื่อลดการอุดตัน ลักษณะเด่นของผิวมัน คือ
- ต้องการการทำความสะอาดล้ำลึก
- มีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย และมีรูขุมขนขนาดใหญ่
- เกิดริ้วรอยอันเกิดจากความแห้งได้น้อย
- ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันเพราะอาจทำให้เกิดสิวได้

การดูแลผิวจำเป็นต้องเลือกผลิตภัณฑ์ตามคุณลักษณะของผิวเป็นหลัก เพราะหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม บางครั้งอาจเกิดผลเสียขึ้นได้ เช่น เป็นสิว ผดผื่น คัน หรือแห้งลอกเป็นขุย

จะจับแชร์ลูกโซ่ได้อย่างไร ?

ต่อไปจะอธิบาย และยกตัวอย่าง ธุรกิจไบนารี่ ที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ให้มากที่สุด อาจจะไม่สมบูรณ์ถึงขั้นชี้ชัดได้ว่า

เป็นแชร์ลูกโซ่ 100% แต่ถ้าบริษัทไหนที่มีลักษณะตรงกับที่กล่าวมาเกิน 3 ข้อให้ระวังได้เลย

1. ไม่มีการจดทะเบียนการเปิดบริษัทไว้กับ สคบ.

(สามารถตรวจสอบได้โดยตรงที่ www.ocpb.go.th แล้วเลือกช่องตรวจสอบรายชื่อบริษัทขายตรง)

2. สินค้าที่จดทะเบียนขออนุญาตจาก สคบ . มีน้อยกว่า สินค้าที่จำหน่ายอยู่ในระบบขณะนี้

3. การ ไปกระตุ้นคนใหม่ ให้เข้าร่วมองค์กรของบริษัท ให้มีการเติบโตของคน โดยไม่มีการสอนงานหรือหลักการทำธุรกิจที่ถูกต้องให้ เน้นเพียงไปหาคนมา แล้วคิดถึงแต่รายได้ เอาเงินต่อเงิน

4. สินค้าด้อยคุณภาพ ไม่สามารถใช้ได้จริง ไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภค คือเมื่อซื้อไปตอนสมัครก็ไม่อยากจะซื้ออีก(กล่าวคือ ซื้อไปแล้วลองใช้พบว่าเป็นของที่ไม่มีคุณภาพ ไม่อยากกลับมาซื้ออีก แต่หากเป็นของดีเมื่อหมดแล้วจะต้องการใช้อีก ธุรกิจนี้จะไม่เป็นแชร์ลูกโซ่ เพราะ รายได้เกิดจากการขายของและผลกำไรบริษัท)

5. บังคับให้ซื้อของ พร้อมกับเปิดรหัสสมาชิก หากไม่ซื้อก็จะไม่เกิดรายได้ใดๆ เป็นการบังคับซื้อเพื่อเกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบ เอาเงินคนใหม่ไปจ่ายคนเก่า

6. ไม่ต้องมีการรักษายอดหรือการซื้อซ้ำ หากซื้อครั้งเดียวแล้วสามารถรับรายได้ไปตลอด องค์กรจะนำเงินหมุนเวียนมาจากที่ไหนเพื่อไปจ่ายให้กับผู้ทำธุรกิจ

7. ทำ ได้หลายรหัส สามารถเริ่มการทำธุรกิจด้วยการลงทุนที่แตกต่างกัน เพราะการเริ่มต้นที่แตกต่างกันจะทำให้เกิดการไม่เท่าเทียมกัน คนที่มีทุนมากก็จะลงทุนสูงทำให้ผู้ที่มีทุนต่ำเกิดความเสียเปรียบ ธุรกิจเครือข่ายที่ดีควรให้ทุกคนมีการลงทุนที่เท่ากัน

8. สามารถซื้อ ตำแหน่งได้ กล่าวคือ หากต้องการมีตำแหน่งที่สูงขึ้น เพื่อที่จะรับค่าตอบแทนเพิ่มในทุกๆเดือน ก็สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อได้ทันที ในธุรกิจเครือข่ายที่ดีจะมีการปรับขึ้นลงของตำแหน่งได้ เป็นไปตามการซื้อผลิตภัณฑ์ของคนในองค์กรทั้งหมด กล่าวคือ ไม่มีคนซื้อใช้ เงินที่ได้ก็น้อยลง ถึงจะสมเหตุสมผล

9. การเปิดโมบายให้กับสมาชิก คือการให้สมาชิกสามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือแจกจ่ายของแทนบริษัท ตามจังหวัดหรือที่อื่นๆที่ยังไม่มีการตั้งศูนย์บริการ โดยผู้เป็นโมบายต้องสั่งสต๊อกสินค้าไว้จำนวนมากๆเผื่อคนในพื้นที่ต้องการ แต่ผลคือทำให้เกิดการกักตุนสินค้า แล้วสินค้าไม่สามารถเคลื่อนไปยังผู้ใช้ทั่วไปได้โดยปกติ เกิดเป็นหนี้สินที่สร้างความเสียหายให้กับตนเอง

10. ค่าธรรมเนียมการ สมัครสูง ผู้สมัครจะถูกหลอกให้จ่ายค่าฝึกอบรมและซื้อสินค้าเกินความต้องการและจะไม่ ยอมคืนค่าสมัคร หรือค่าผลิตภัณฑ์ให้

11. ไม่สนใจที่จะขายสินค้าคุณภาพ ดังนั้นสินค้าส่วนใหญ่จะมีคุณภาพต่ำ ผลกำไรของระบบปิระมิดจะมาจากการรับสมัครสมาชิกใหม่ ซึ่งจะถูกบังคับให้ซื้อสินค้าที่มีราคาสูงเป็นจำนวนมาก

12. ไม่มีนโยบายรับซื้อสินค้ากลับคืนจากนักขาย เพราะอาจทำให้ระบบปิระมิดล้มทลายลงได้

13. ร่ำรวยในระยะเวลาอันรวดเร็วบนความทุกข์ของผู้อื่น โดยผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่ฐานของปิระมิดจะเป็นผู้จ่ายเงินให้แก่คนไม่กี่คน ที่อยู่ในระดับจุดยอดของปิระมิด ซึ่งธุรกิจรูปแบบนี้ไม่สามารถอยู่ได้ยาวนาน

14. ระบบนี้จะไม่เน้นการขายสินค้าให้กับผู้บริโภค แต่ผลกำไรจะมาจากสมาชิกที่สมัครใหม่ซึ่งจะต้องซื้อสินค้าเพื่อกักตุน มิใช่เพราะสินค้ามีประโยชน์ หรือคุ้มค่าคุ้มราคา แต่ถูกบังคับให้ซื้อตามระบบ สมาชิกใหม่จะต้องแบกรับภาระกับสินค้าที่ตนขายไม่ได้ และเมื่อระบบปิระมิดนี้ล้มทลายลง ก็จะไม่ได้รับเงินลงทุนกลับคืนมาเลย

15. ฉ้อฉลหลอกลวงให้คนเข้ามาในระบบ สัญญาว่าจะให้ตำแหน่งหรือรายได้ สร้างภาพและความหวัง

16. เน้นการรับสมัครสมาชิกใหม่เป็นหลัก โดยไม่สนใจการขายสินค้าและการบริการหลังการขาย แก่ลูกค้า

17. เป็นระบบที่ผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกาหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งเอเชีย

กิฟฟารีน ธุรกิจเครือข่ายทำได้ที่บ้าน

การทำธุรกิจเครือข่ายที่บ้าน ก็สามารถที่จะให้อิสรภาพทางด้านการเงิน เวลา และสิ่งที่คุณปรารถนาได้


ปัจจุบันมีคนทั่วโลกหลายล้านคน ได้หันมาทำธุรกิจเครือข่ายจากที่บ้าน เพราะเป็นธุรกิจที่สามารถให้ผลประโยชน์ทางด้านการเงิน และความมั่นคงของรายได้ ให้อิสรภาพทางด้านเวลา และความพึงพอใจ

มีหลายคนที่พบว่าการทำธุรกิจเครือข่ายที่บ้านมีความสุขมากกว่าการทำงานประจำ หลายคนลาออกจากงานประจำ เพื่อทำธุรกิจเครือข่ายที่บ้านแบบเต็มเวลา

แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มธุรกิจเครือข่าย ควรศึกษาให้แน่ใจก่อนว่าธุรกิจเครือข่ายที่คุณมองอยู่นั้น มีสิ่งเหล่านี้หรือไม่


- ความมั่นคงและการเติบโตของธุรกิจอยู่ในเกณฑ์ที่ดี


- ไม่จำกัดตลาด มีสินค้าสำหรับคนหลายแบบ หลายสไตล์


- มีระบบสนับสนุนช่วยให้สำเร็จได้จริง


ที่กิฟฟารีน เรามีสิ่งเหล่านี้ให้คุณอย่างครบถ้วน

ใครก็ตามที่กำลังมองหาช่องทางการทำธุรกิจ รวมทั้งต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ และต้องการมีรายได้สูงๆ ระดับหลักแสนบาท หรือล้านบาทต่อเดือน ธุรกิจเครือข่ายสามารถที่จะตอบสนองความต้องการของคุณได้ เพียงแค่คุณมีความมานะ อดทน และมีความพยายามต่อเนื่อง สัก 2 – 3 ปี ธุรกิจนี้จะนำมาซึ่งความมั่นคง และมั่งคั่ง ได้อย่างแน่นอน

เราทำธุรกิจเครือข่าย ไม่ใช่ขายตรง

คนส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมทำธุรกิจเครือข่าย เพราะเขาไม่รู้ความแตกต่างระหว่าง การสร้างเครือข่าย กับ การขายตรง ไม่น่าแปลกใจเพราะบริษัทเครือข่ายที่มีชื่อเสียงต่างอยู่ในสมาคมขายตรง และในบางครั้งคุณอาจมองการทำธุรกิจเครือข่ายเหมือนการเดินขายของตามบ้าน เพราะว่าคนส่วนใหญ่รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายครั้งแรก เมื่อมีผู้มาเคาะประตูบ้านคุณและพยายามขายของให้คุณ ซึ่งที่จริงแล้ว มีลักษณะบางอย่างที่แยก ธุรกิจเครือข่าย ออกจากการขายตรง นั่นคือ หากคุณอยู่ในธุรกิจเครือข่าย คุณอยู่ในธุรกิจเพื่อตัวคุณเอง แต่ไม่ใช่โดยตัวคุณเอง


การเข้าร่วมธุรกิจคุณจะซื้อสินค้าในราคาขายส่ง และคุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวคุณเองด้วย หลายคนเข้าร่วมธุรกิจด้วยเหตุผลนี้ เมื่อคุณซื้อสินค้าในราคาขายส่ง คุณรู้สึกว่าคุณขายปลีกได้ และจะได้กำไร ทำให้คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า คุณต้องขายปลีก คุณจึงจะประสบความสำเร็จ

คุณสามารถขายได้ถ้าคุณต้องการ หรือต้องการขายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนก็ขายไปเถิดครับ แต่หากคุณต้องการสร้างรายได้มหาศาล ความสำเร็จนั้น ต้องมาจากการสร้าง เครือข่าย

คำว่า ขาย เป็นคำที่คนส่วนใหญ่กลัว ในธุรกิจเครือข่าย คุณไม่จำเป็นต้อง ขาย ตามความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน

เมื่อคุณสร้างองค์กร หมายความว่า คุณกำลังสร้างเครือข่ายที่ใช้ในการกระจายสินค้า เพื่อให้สินค้าของคุณเคลื่อนไหว

บริษัทธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่ ไม่ต้องเสียเงินมหาศาลไปกับการโฆษณา เพราะสุดยอดการโฆษณา คือ การบอกปากต่อปากของสมาชิก ดังนั้น บริษัทเครือข่ายจึงมีเงินมาจ่ายค่าตอบแทนให้สมาชิก รวมไปถึงมีเงินมาใช้ในการพัฒนาสินค้าได้มากกว่าบริษัททั่วๆไป

หากคุณทำงานให้กับบริษัทขายตรง เมื่อคุณย้ายถิ่นที่อยู่ คุณอาจต้องเริ่มทำงานใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง แต่หากคุณอยุ่ในธุรกิจเครือข่าย คุณสามารถย้ายไปที่ใดก็ได้ โดยไม่สูญเสียรายได้จากองค์กรที่คุณสร้างไว้ การทำธุรกิจเครือข่ายคุณสามารถสร้างรายได้มากมายจากการสร้างองค์กร ไม่ใช่การขาย

คุณสามารถมีความเป็นอยู่ที่ได้จากการขาย แต่คุณจะสร้างความมั่นคงของรายได้อย่างถาวร ได้จากการสร้างองค์กรเท่านั้น

รังสียูวี (UV) ภัยร้ายใกล้ตัว

รังสียูวีสามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิดตามความยาวคลื่น ได้แก่


UVA ความยาวคลื่น 320 - 400 mm สามารถทะลุทะลวงผ่านเข้าชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ ก่อให้เกิดผิวคล้ำ ฝ้า กระ รวมถึงการทำลายโครงสร้าง คอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวเกิดความเหี่ยวย่น ไม่ยืดหยุ่น หรือเกิดความร่วงโรยของผิวนั่นเอง

UVB ความยาวคลื่น 290 - 320 mm สามารถผ่านชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ด้านบน รังสี UVB นี้เป็นสาเหตุของการเกิดผิวไหม้แดด สีผิวเข็มขึ้น ระคายเคือง และอักเสบได้

UVC ความยาวคลื่น 200 - 290 mm รังสีนี้จะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซนในบรรยากาศเหนือผืนผิวโลก จึงลงมาไม่ถึงผิวของเรา ซึ่งนับว่าโชคดี เพราะ UVC คือตัวการที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้มากที่สุด

แต่ก็ใช่ว่าแสงแดดจะให้โทษแต่เพียงอย่างเดียว เพราะจริงๆแล้ว แสงแดดมีประโยชน์มากมายมหาศาล เพราะแสงแดดให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ฆ่าเชื้อโรค แล้วยังช่วยให้ผิวหนังสังเคราะห์วิตามินดีที่จำเป็นมากๆ ในการดูดซึมแคลเซียมด้วย อย่างไรก็ตามเราควรเลือกช่วงเวลาที่จะโดนแดดนั่นก็คือ ในช่วงเช้าก่อน 8 โมงเช้า และช่วงที่ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดมากที่สุดก็คือช่วง 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น
http://www.you-can-do.net/?refno=61342

แบ่งปันจากการสัมนา ที่ กิฟฟารีนคลินิก 20 ตุลาคม 2552 สำหรับผู้ชนะการแข่งขันไปสิงคโปร์

วิทยากร คุณหมอต้อย


เส้นทางสู่เจ้าของเครือข่ายผู้บริโภค

เราต้องเป็น …

นักจิตวิทยา

นักบริหาร

นักการตลาด

A. upline มองมาที่ downline เข้าใจถึงบุคลิก และความต้องการของ downline แต่ละคนเพื่อที่จะสานฝันให้
downline ได้ถูกทาง อาจเป็นแค่ผู้บริโภค หรือผู้ที่ต้องการทำธุรกิจไปด้วย ต้องเข้าถึงจิตใจของ downline

B. Downline มอง upline ปัญหาที่เกิดส่วนใหญ่ downline บางคนจะมองในมุมที่เป็นลบ คือ เข้าใจว่าหากทำงานได้เยอะ เหมือนกับสร้างเงินให้ downline กลายเป็นสายงานของ downline คนนี้ไม่เป็นไปตามจุดมุ่งหมายที่เขาหวังในตอนแรก ให้คิดเสมอว่าเราคือเจ้าของธุรกิจทุกคน upline คือ ผู้ให้โอกาส ไม่ถูกต้องที่ เราคิดว่าเราทำเงินให้ upline เราต้องใช้งาน upline เยอะๆเพื่อตอบแทนเรา

ความสำเร็จเกิดจาก

1. ความเข้าใจในตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองเสมอ จำไว้ว่าถ้าเรามัวหาแรงบันดาลใจจากคนอื่น เราจะไม่ได้อย่างที่เราต้องการ เพราะตัวเราเองที่เข้าใจตัวเอง เราสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราเองด้วย จำไว้ว่า เราคือคนที่มีค่าที่สุด เพราะเราคือต้นตระกูลของเครือข่าย

2. ความเข้าใจในหัวใจของคนรอบข้าง upline side line และ downline อย่าคิดไปเองว่าเขาจะคิดอย่างไร คนเราคิดไม่เหมือนกัน ขอให้เราจริงใจเปิดใจ เขาก็จะบอกได้ว่าเขาต้องการอะไร ทำให้คนที่อยู่กับเรามีความสุข มีความภูมิใจ และทำให้เขาได้รับความสำเร็จตามความต้องการของแต่ละคน บางคนต้องการแค่มีเงิน บางคนต้องการเงินมากกว่านั้น ความต้องการไม่เหมือนกัน บางคนเป็นพาราไดซ์แต่เขาพอใจแค่เงินปันผลเดือนละ 2-3 หมื่น อันนี้อยู่ที่ความพอใจของเขา

3. ความรักและเข้าใจในเนื้องานของ กิฟฟารีน คุณหมอบอกว่า ดูแลพวกเราแบบพี่น้อง ไม่ได้ดูแลพวกเราแบบนักธุรกิจ ทุกคนคือคนในครอบครัว จึงมีคำว่าบริษัทแม่ บริษัทลูก ในกิฟฟารีน บริษัทแม่คือ บริษัทสกายไลน์ ยูนิตี้ บริษัทลูกคือ ท่านทุกคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจเครือข่าย

พวกเราทุกคนเปรียบเสมือนเจ้าของห้างสรรพสินค้าที่
ไม่ต้องหาอาคาร
ไม่ต้องหาสินค้า
ไม่ต้องจ้างพนักงาน
ไม่มีการกู้เงินมาลงทุน และไม่มีความเสี่ยง
มีสินค้าให้เรา 2000 กว่ารายการ

ในธุรกิจเครือข่าย ถ้าใครสามารถทำให้ทุกคนในเครือข่ายของเราได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ
คนคนนั้นก็จะมีเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่และมีรายได้มากที่สุดอย่างแท้จริง

คำว่าเจ้าของเครือข่ายผู้บริโภค

สมัยนี้มีคำนี้มาก แต่กิฟฟารีนไม่เคยทำตามใคร เราเป็นเจ้าแรกที่บอกว่าทุกคนคือเจ้าของเครือข่ายผู้บริโภค ทุกคนคือเจ้าของเครือข่ายบริโภคที่แท้จริง เจ้าของธุรกิจเครือข่ายที่แท้จริงต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1. มีสินค้าที่ทุกคนซื้อกินซื้อใช้ได้จริงๆ บางแบรนด์มีให้สำหรับชนชั้นสูง ฐานะดีจึงซื้อได้ บางแบรนด์สำหรับคนชั้นกลางถึงล่าง แต่เรากิฟฟารีน มีสินค้าสำหรับคนในทุกฐานะ

2. มีความคุ้มครองลิขสิทธิ์เครือข่ายให้อย่างแท้จริง เพราะเราไม่มีการต่ออายุ ถ้าที่ไหนมีการต่ออายุก็ไม่ใช่เจ้าของเครือข่ายอย่างแท้จริง หรือที่ใดมีข้อแม้ว่าต้องซื้อของภายในระยะเวลานั้น หากไม่ซื้อจะตัดชื่อออก นี่ก็ไม่ใช่ แต่เราไม่ตัดใครออกไป จุดแข็งของกิฟฟารีนที่ไม่เหมือนใครคือ ใครสมัครมา เราไม่ตัดใครออกไปเลย แม้เขาจะไม่ได้ซื้อหรือไม่ได้ทำงานก็ตาม

สมัยนี้มีธุรกิจที่อ้างว่าเป็นเครือข่ายมากมาย ทั้งหาสมาชิกให้แบบ binary หรือแบบ matching ธุรกิจเหล่านี้ก็คือให้เยอะ รายได้เป็นแสนอย่างรวดเร็ว (คุณหมอยกตัวอย่าง xxxx และอีกหลายตัวที่มาจากอเมริกา) แต่ที่ได้เป็นแสนนั้น ก็คือต้องเอามาโปะคืนให้เขาเป็นแสนด้วย คนที่ทำได้คือต้องหาสมาชิกให้เยอะๆ แต่ก็ต้องจบ เพราะสุดท้ายสมาชิกก็ทำไม่ไหว ความน่าจะเป็นต่ำมากเพราะต้องมีเงินลงทุนที่สูงตลอดในทุกเดือน

คุณหมอเล่าว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เข้าไปพบนายกเพราะคุณหมอเป็นนายกสมาคมขายตรงไทย ก่อนเข้าไปพบก็พบหน้าห้องท่านก่อน หน้าห้องก็บ่นมากว่า รู้ไหมขายตรงน่ะทำให้คนไทยเป็นหนี้เป็นสิน เอามาขายได้ยังไง แพงๆทั้งนั้น คนไทยก็โง่ซื้อไปตลอด ไม่รู้ว่าเขาหลอกแล้ว คุณหมอก็รีบบอกว่า ไม่ใช่นะคะ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น สินค้าของเราไม่แพง แล้วเราก็จ่ายให้เยอะมาก เขาก็รีบพูดบอกว่า ผมไม่ได้หมายถึงกิฟฟารีน ผมหมายขายตรงถึงไอ้ที่มันแพงๆมากๆน่ะ คนไทยจะทำไปทำไมกินเนื้อตัวเองทั้งนั้น

… หมอสรุปตรงนี้ว่า หมอมั่นใจว่า คนทั้งประเทศไทย ไม่มีใครคิดไม่ดีกับกิฟฟารีน หมอบอกได้ว่า จำนวนธุรกิจทั้งหมด กิฟฟารีนเป็นธุรกิจที่คนไทยยอมรับมากอันดับหนึ่ง แม้บางคนไม่พูดออกมา เพราะเราได้แสดงให้เห็นว่า เราคือเครือข่ายที่แท้จริง มีโรงงานในประเทศไทย และทำเพื่อคนไทยจริงๆ

คุณหมอ ยกตัวอย่าง มาม่า จนถึงวันนี้ ไม่มีใครมาแซงมาม่าได้เลย ไวไวก็ถอย ยี่ห้อใหม่ก็ถอย เพราะอะไร…มาม่า เขาเน้นที่ ปริมาณ การขายได้เยอะๆ แต่ขายถูก ราคาไม่เคยเปลี่ยน สิ่งนี้ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จไม่มีใครตามเขาทัน…

เวลาเราไปแนะนำกิฟฟารีนใคร หากเขาถามมาว่า ของเขาได้มากกว่าเยอะเลยเป็นหมื่นเป็นแสน เราก็ไม่ต้องไปตกใจ เพราะที่เขาได้มานั่น ราคาของที่ซื้อสูงกว่า pv ที่เขาได้มาก ถ้าเทียบกันบาทต่อบาท กิฟฟารีนให้ได้มากที่สุดของธุรกิจที่อ้างว่าเป็นเครือข่ายทั่วประเทศ และที่สำคัญ pv ของเราเท่าราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน มีสินค้าน้อยมากที่ pv จะต่ำกว่าราคาที่เราซื้อ

บริษัทกิฟฟารีน ไม่มีหนี้ หมอไม่เคยกู้แบงค์มาทำธุรกิจ หมอใช้เงินสดมาตลอด ตอนนี้หมอวางแผนผู้บริหารใน gerneration 2 แล้ว พวกเราไม่ต้องห่วง หมอต้องการให้กิฟฟารีนอยู่เป็นร้อยปี ไม่ใช่อยู่เป็นแค่สิบยี่สิบปี

จำไว้ว่า ดูแลไม่กี่คน แต่ดูแลให้ดีดี แล้วเงินแสนเงินล้านจะตามมาเอง

จุดเด่นของกิฟฟารีน

1. คุ้มครองลิขสิทธิ์เครือข่าย 100% หนึ่งเดียวในโลก

2. มีสินค้าที่ติดตลาด ขายตัวเองได้ มั่นใจได้ว่าสินค้าของเราจะช่วยทุกท่าน ขับเคลื่อนรายได้อยู่เสมอ และตลอดไป ด้วยราคาและคุณภาพ กิฟฟารีนซื้อวัตถุดิบแต่ละครั้งจำนวนมหาศาล จนหลายโรงงานดังๆของโลก ต้องการให้เราเป็นลูกค้าของเขา เพราะเราซื้อทีละมหาศาล เราซื้อวัตถุดิบมาหนึ่งชนิด แต่สามารถเอามาทำสินค้าได้หลายชนิด

ที่สำคัญ หมอบอกว่า กิฟฟารีนได้ซื้อวัตถุดิบมาจากที่เดียวกับแบรนด์ดังของโลก แต่เราเหนือกว่าตรงที่ เราสามารถเอาวัตถุดิบนั้นมาแปรสภาพให้เหมาะกับสภาพร่างกายของคนไทย

สินค้าของเรามีเหมือนที่ GNC มี (GNC คือ บริษัทอาหารเสริมในอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก) เรามีหมดเหมือน GNC แสดงว่าเราไม่มีทางล้าสมัยแน่นอน

3. เรามีระบบสนับสนุนการตลาด ที่แข็งแรงที่สุด ไมต้องลงทุน ไม่มีความเสี่ยง
คือ เรามีโรงงานผลิตสินค้าเอง มีศูนย์ธุรกิจให้บริการและดูแลนักธุรกิจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เราเสียภาษีเงินได้อัตราก้าวหน้าแทนนักธุรกิจเพื่อแบ่งเบาภาระที่จะต้องเสียก้อนใหญ่ในแต่ละปี

การดูแลสายงาน เราดูแลแค่ 4 ชั้นก็เพียงพอ คือ ดูแลตัวเราเอง ดาวน์ไลน์ติดตัว ดาวน์ไลน์หลาน
ดาวน์ไลน์เหลน อย่างนี้เราจะได้เงินแสนถึงเงินล้าน

แต่หากเราต้องการรายได้ 10,000-20,000 ต่อเดือน เราก็ดูแลคนแค่สองชั้นก็พอ
 คือ ตัวเราเองและดาวน์ไลน์ติดตัว

และหากเราต้องหารรายได้ 20,000-50,000 เราก็ดูแลสามชั้น
คือ ตัวเราเอง ดาวน์ไลน์ติดตัว ดาวน์ไลน์หลาน

สร้างบรรยากาศให้คึกคัก ยิ้มแย้มเสมอ เป็นบุคลิกที่สำคัญของเจ้าของบริษัท ให้เราเป็นเป็นมืออาชีพ งานนี้ไม่ได้อาศัยว่าต้องเก่ง แต่อาศัยความชำนาญการทำซ้ำๆมากกว่า เช่นการดูแลคน การสร้างโกลสตาร์ การสร้างสายงานใหม่ๆ ก็คือการทำงานซ้ำๆกัน ก่อให้เกิดความชำนาญ

บทเชิญสำหรับผู้มุ่งหวัง

1. แนะนำให้เริ่มจากคนคุ้นเคยด้วยการถามว่าเคยเห็นโฆษณาไหม รู้สึกอย่างไร เราก็มาทำกิฟฟารีนแล้วนะ ทำแล้วสนุก มีความสุขด้วย

2. สร้างบรรยากาศให้พูดคุยสบายๆ ไม่กดดัน และไม่ยัดเยียด

3. บอกเขาว่า งานของเรามีแค่ “เล่าเรื่องจริงให้เพื่อนฟัง”


วิทยากร ดร.นารี

ระบบสนับสนุนจากบริษัท

1. สร้างความพร้อมให้สมาชิกคือ มีการอบรมสัมนา ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

- ในศูนย์ธุรกิจ

- ในงานประชุมประจำเดือน

- งานสัมนาที่โรงแรมอินทรา ทุกวันอังคาร

- การอบรมแต่งหน้า / การอบรมบุคลิกภาพ

มีสื่อธุรกิจต่างๆ

- VCD

- เอกสารต่างๆ

- หนังสือเส้นขอบฟ้า

2. บริษัทช่วยรักษาและดูแลเครือข่าย ท่านสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของสมาชิกได้ทันทีง่ายดาย

- บริษัทมีดัชนีพัฒนาเครือข่ายใน สลิปเงินปันผล

- แผนผังองค์กาสมาชิก สามารถขอทางบริษัทได้

3. บริษัทมีโฆษณาประชาสัมพันธ์

4. จัดให้มีสินค้าแลกซื้อเพื่อกระตุ้นผู้บริโภคในทุกเดือน

5. จัดให้มีโปรแกรมการแข่งขันท่องเที่ยวต่างประเทศ และโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นให้นักธุรกิจมีความคึกคัก มีชีวิตชีวา


วิทยากร … อาจารย์พงศ์พสุ

เทคนิคการเปิดใจและการบริหารเครือข่าย

งานของเคือ service และ management

Service คือ การดูแลผู้บริโภค management คือดูแลคนที่ต้องการมีรายได้ เราต้องมีภาวะความเป็นผู้นำ

เทคนิคการพูดเพื่อจูงใจ

1. ธุรกิจกิฟฟารีนเป็นเครือข่ายที่ขยายงานได้ง่าย

2. ถ้าเทียบกับบริษัทอื่น แบบบาทต่อบาท เราจะจ่ายคืนให้ได้มากกว่าที่อื่น

3. แผนธุรกิจไม่กดดัน เพราะเราก็มีเวลาไม่มาก ตรงที่ตำแหน่งขึ้นแล้วขึ้นเลย ไม่ลด หากบางเดือนเราไม่ว่างทำ ตำแหน่งเราก็ไม่ลด

4. เป็นบริษัทที่มีความพร้อม ทำให้คนไม่เก่งก็ทำได้เติบโตได้ มีผู้ช่วยหลายทาง การพูดอย่าโจมตีบริษัทอื่น

5. สินค้าของเราขายตัวเองได้ เราก็เบาใจ

สรุป เรามีสินค้าที่มากที่สุด ให้เงินปันผลที่มากที่สุด เราเป็นเจ้าของแบรนด์อย่างแท้จริง 100%ไม่ต้องมาต่ออายุกันอีก

การพูดที่จะโน้มน้าวได้ ไม่ใช่การที่ต้องพูดเกี่ยวกับกิฟฟารีนให้เก่ง แต่อยู่ที่การสร้างสัมพันธ์ และถูกชะตากันมากกว่า ให้พูดด้วยอารมณ์มากกว่าที่จะพูดด้วยเหตุผล เช่น พูดว่า เราก็สงสัยเหมือนกันนะว่าเรามาทำกิฟฟารีนได้ยังไง แต่พอเรามาทำเรารู้เลยว่าทำได้ง่ายมาก หรือ เราไม่เคยคิดว่ากิฟฟารีนจะให้เราได้มากแบบนี้ มันไม่น่าเชื่อเลย แต่เราก็ได้รับมาจริงๆ

แล้วถ้าเขาถามว่า คนในโฆษณานั้น เรื่องจริงหรือ เราก็บอกตามจริงว่า ใช่เขาประสบความสำเร็จจริงๆ เลยเอาเขามาโฆษณา ทางทีวี แล้วหากเพื่อนถามต่อว่า แล้วคนที่มาทำได้เงินแสนเงินล้านทุกคนเลยหรือ

เราก็บอกว่า ไม่ทุกคน ก็เหมือนเรียนหนังสือ ครูสอนเด็ก ใช่ว่าเด็กทุกคนจะรู้เรื่องหมด

แต่ธุรกิจนี้สามารถให้เงินเป็นแสนเป็นล้านได้ หากต้องการ หากมุ่งมั่น ความสำเร็จได้ ต้องมีวินัย + มีวิธีการ

เวลาเราพูดแนะนำคน ให้เราพูดเรื่องใหญ่ๆ ไม่ต้องพูดเรื่องเล็กๆ เช่นกิฟฟารีนตั้งมาเมื่อไรไม่ต้องพูด พูดแต่ว่าเราได้ผลตอบแทนจริง

วิถีชีวิตทุกคนก็เป็นเครือข่ายอยู่แล้ว เช่นเมื่อเราไปเจอหมอ หมอคนไหนรักษาดี เราก็ไปบอกต่อ ก็เท่ากับว่าเราทำธุรกิจเครือข่ายให้หมอคนนั้นแล้ว ถูกไหม

การพูด พูดให้เขาเห็นเงิน ไม่ใช่พูดให้เขาเห็นงาน คนที่เหนื่อยมากได้น้อยคือคนทำงานไม่เป็น คนที่เหนื่อยน้อยได้มากคือคนที่ทำงานเป็น

การเปิดใจกับคน ไม่ต้องกังวลว่าขณะนั้นเราได้รายได้เท่าไร ความน่าสนใจ ไม่ได้อยู่ที่ความสำเร็จของผู้พูด ให้เราพูดอย่างมีศักดิ์ศรี เราต้องมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องอ้อนวอนให้เขามาสมัคร หากเราขายตัวเลขของเราไม่ได้ เราก็ขายความคิด อาจยกตัวอย่างรายได้ของ upline มาบอกเขา

เช่นถ้าเขาถามว่า อะไรกันคุณได้แค่นี้เองหรือ เราไม่ควรตอบว่า แหมก็ผมเพิ่งมาทำเอง จะเอาอะไรมากล่ะ

ควรตอบว่า ในขณะที่ผมเพิ่งสมัคร ถ้าเทียบกับ upline ที่เพิ่งสมัคร ผมได้มากกว่า และผมก็ภูมิใจในสิ่งที่ผมได้ แม้คุณจะดูว่ามันน้อย วันหนึ่งผมก็จะได้มากขึ้นอย่างมั่นคงแน่นอน

ย้ำว่า กิฟฟารีน ทำง่าย ได้เยอะ และมั่นคง

การเปิดใจผู้ฟัง หากผู้ฟังที่เปิดใจยากให้เราเปิดใจกึ่งสัมภาษณ์เขา เพื่อเราสามารถรู้ความต้องการของเขาได้

คิดว่าเรากำลังเอาของขวัญไปให้เขา เขาไม่ใช่ผู้ที่มารอคอยการบริจาคของจากเรา ไม่มีใครอยากเป็นผู้รับแบบนี้ เราให้ด้วยความยินดี เอาของขวัญไปให้เขา

ถ้าเขาพูดว่า กิฟฟารีนน่ะ ได้ช้าและได้น้อย ก็ให้ถามเขาว่า เขามองคนไหน เขามองที่ผู้บริโภคอย่างเดียวหรือปล่าว หรือเขาไปมองคนที่ทำงานไม่เป็น หรือคนที่ไม่ได้ตั้งใจทำธุรกิจนี้จริงจัง เพราะสองตัวอย่างนี้รายได้ไม่มากอย่างแน่นอน

ให้ทุกคนมีความเชื่อมั่น หากเราเชื่อมั่นแล้ว เราก็พร้อมจะถ่ายทอดให้เขาฟังได้

ยกตัวอย่างมีคนบอกให้เปลี่ยนชื่อหลายครั้ง เพราะชื่อเป็นกาลกินี ผมมองดูชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เด็ก จนถึงบัดนี้ ไม่เห็นมีสิ่งใดที่เป็นกาลกินีในตัวผมเลย …

จะบอกว่า ก็เหมือนคนเปลี่ยนชื่อ เขาเปลี่ยนแล้ว เขาก็มีความมั่นใจว่า ต้องดีขึ้น เขาก็เลยทำทุกอย่างได้ดี เพราะเขามั่นใจ ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนชื่อแล้วดี แต่เขามีความมั่นใจต่างหาก

…. ฉะนั้น ทุกอย่างอยู่ที่ความมั่นใจทั้งนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งอื่นเลย

การเป็นเครือข่ายที่แข็งแรง

1. ผู้บริโภครายใหญ่ 10 คน ซื้อสินค้าคนละ 2,000 บาท = 20,000

2. ผู้บริโภครายย่อย 20 คน ซื้อสินค้าคนละ 500 บาท = 10,000

3. เพิ่มจำนวนสมาชิกสร้าง bs 4 คน 4*1500 = 6,000

4. สร้างนักธุรกิจเก่าให้เติบโตเป็น ss 1*9,000 = 9,000

ยอดก็เป็น 45,000 pv

สร้างแบบนี้ใน 15-20 สายงานติดตัว ถ้าลึกให้ได้สี่ชั้น ก็จะเป็นรายได้ที่มากและมั่นคง สร้างให้กว้างและลึก

ทำเงินร้อย ให้เป็นเงินล้าน

มาดูกันสิว่า ธุรกิจที่เริ่มต้นด้วยเงินลงทุน หรือเงินค่าสมัครเพียงแค่ 180 บาทในวันนี้


คุณจะมีวิธีการสร้างอย่างไร ให้ธุรกิจกิฟฟารีนของคุณมีมูลค่า นับ 100 ล้านบาท

...ย้ำนะครับ 100 ล้านบาท ไม่ใช่ 100 บาท

ก่อนจะไปถึงเรื่องที่จะเขียน วันนี้คุณลองใช้เวลา ยามว่าง ๆ นั่งคิดเล่น ๆ ว่าในอีก 5 - 10 ปีข้างหน้านี้ คุณมีธุรกิจอะไรอยู่ในมือบ้างไหม

และถ้ามีในอีก 5 ปี หรือ 10 ปี คุณคิดว่าจะสร้างธุรกิจของคุณให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าไหร่

ถ้ายังไม่มี คุณคิดที่จะสร้างอะไรขึ้นมาบ้างหรือไม่ อันนี้ผมถามผู้คนทั่ว ๆ ไปนะครับ

สำหรับท่านที่มีธุรกิจใหญ่โต ซึ่งอาจจะได้มาโดยมรดกตกทอด หรือการสร้างขึ้นใหม่ด้วยตัวคุณเอง ก็แสดงความยินดีด้วยครับ แต่สำหรับผู้คนเดินดินทั้งหลาย ที่ยังตะเกียกตะกาย ในการดำเนินชีวิต เช่นเดียวกับผม ก็ลองมาคิด ๆ ร่วมกันดูครับ

สำหรับท่านที่ทำธุรกิจกิฟฟารีน อยู่ในตำแหน่งระดับ Exclusive Paradise ขึ้นไปอาจจะมองย้อนกลับมาได้ว่า เรื่องราวที่ผมเขียนอยู่นี้ เกิดขึ้นจริงแล้วสำหรับตัวเขา

แต่สำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มทำ หรือยังไม่ได้ทำธุรกิจกิฟฟารีน เพียงแต่วันนี้กำลังศึกษาและหาอะไรใหม่ ๆ ให้ตัวเองบ้าง และบังเอิญผ่านแวะเวียนเข้ามายังเว็บไซค์แห่งนี้ ถ้าท่านมีความรู้พื้นเพ ของธุรกิจเครือข่าย ที่ถูกต้อง เมื่ออ่านบทความนี้แล้ว ท่านก็คงพอจะนึกภาพออก

แต่หากท่านยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายเลย ผมแนะนำให้ท่านอ่านบทความที่แนะนำธุรกิจเครือข่าย หรือแผนธุรกิจ ของกิฟฟารีนก่อน แล้วค่อยมาอ่านบทความนี้ ท่านจะได้ประโยชน์ มากยิ่งขึ้นครับ

วันนี้คุณสมัครทำธุรกิจกิฟฟารีน ด้วยเงินลงทุนในการเปิดรหัสของคุณเพียง 180 บาท ซึ่งสามารถสมัครได้ทั้งคนเดียว และเป็นคู่ เช่นอาจจะคู่สามีภรรยา ก็เสียค่าเปิดรหัสเท่าเดิมคือ 180 บาท เมื่อเปิดรหัสส่วนตัวแล้วคุณจะได้รหัสประจำตัวมาหนึ่งหมายเลข และได้บัตรประจำตัวของสมาชิกกิฟฟารีน ซึ่งสามารถใช้ได้ตลอดชีวิตของคุณ วันนี้สิ่งที่เราควรตระหนักคือ

คุณเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ ที่ลงทุนด้วยเงินหลักล้าน ณ วันนี้ กว่า100 แห่งทั่วประเทศ

คุณเป็นเจ้าของสินค้าในแบรนด์ กิฟฟารีน ที่มีคนทำการประชาสัมพันธ์ให้กับคุณ โดยคุณไม่ต้องลงทุนเลยแม้แต่บาทเดียว

คุณมีพนักงานขาย อยู่ในร้านสะดวกซื้อของคุณ มียามเฝ้าร้านที่ร้านสะดวกซื้อของคุณ โดยคุณไม่ต้องจ่ายเงินเดือนแม้แต่บาทเดียว

คุณคือเจ้าของธุรกิจที่วันนี้ได้เริ่มต้น ธุรกิจของตัวคุณเอง ทำการตลาดด้วยตัวคุณเอง และมีโรงเรียนสอนในการทำการตลาด ให้คุณฟรี ๆ

หากคุณมองภาพเหล่านี้ เรื่องการทำให้ธุรกิจของคุณมีมูลค่านับ ร้อยล้านบาท ภายใน 5 - 10 ปีก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ

แต่ในมุมกลับหากคุณคิดว่า

คุณเป็นเพียงคนขายของ ที่เอาสินค้าของกิฟฟารีนมาขาย เพื่อหารายได้เพียงแค่ สี่ห้าพันบาทต่อเดือน

คุณไม่ได้คิดว่าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่เป็นแค่เพียงสมาชิกขายกิฟฟารีนเท่านั้น

คุณทำธุรกิจเหมือนคุณเป็นลูกจ้างประจำ ที่คอยว่าสิ้นเดือนจะมีเงินเดือนประจำให้ คุณไม่ได้มองเรื่องผลประกอบการ หรือการเติบโตของธุรกิจคุณเลย

ถ้าคุณยังคิดแบบนี้ การจะทำให้ธุรกิจของคุณมีมูลค่านับล้านบาทก็เป็นเรื่องยากแล้วละครับ

วันนี้ผมสมมุติว่า คุณเป็นคนหนึ่งที่ปรารถนาที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต มีมูลค่านับล้านบาทแล้วกัน มาดูสิว่าคุณจะมีวิธีการผลักดันให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้เฉกเช่นใด ยากหรือง่ายเพียงไหน

ก่อนจะเขียนต่อไป ผมขอเขียนให้คุณอ่านแบบง่าย ๆ ว่า

หากวันนี้คุณลงทุนซื้อสินค้าใช้ เดือนละ 500 บาท ได้ เรื่องธุรกิจร้อยล้านก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ สิ่งที่คุณต้องทำ

1. คุณซื้อสินค้าใช้เดือนละ 500 บาท

2. คุณแนะนำเพื่อนร่วมทำธุรกิจกับคุณ เดือนละ 3 คน (มากหรือน้อยกว่านี้ ก็อยู่ที่คุณวางแผน)

สมมุติว่าคุณ และในสายงานคุณแนะนำเพื่อนเข้าร่วมทำธุรกิจได้ เดือนละ 3 คน ต่อคน มาดูอัตราการเติบโต ของธุรกิจคุณภายใน 1 ปีกัน

เดือนที่ จำนวนคนแต่ละชั้น คนทั้งหมด ยอดธุรกิจ (บาท)

1                     1                         1                 500

2                     3                        4                 2,000

3                    9                        13                6,500

4                   27                      40                20,000

5                   81                      121              60,500

6                  243                     364             182,000

7                 729                     1,093           546,500

8                2,187                   3,280          1,640,000

9               6,561                    9,841          4,920,500

10            19,683                 29,524         14,762,000

11            59,049                 88,573         44,286,500

12           177,147              265,720        132,860,000

เห็นไหมครับ ผลประกอบการของคุณภายใน 1 ปี มีมูลค่าถึง 132 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องตลกเลยใช่ไหมครับ เพียงแค่แต่ละคนซื้อสินค้าใช้ เดือนละ 500 บาทเท่านั้นเอง รายได้คงไม่ต้องถามถึงแล้วนะครับ ว่าคุณมีรายได้จากธุรกิจนี้กี่บาท ......

วันนี้เรามองเรื่องธุรกิจเครือข่ายกันยากมากเกินไป จึงทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างมาขวางความสำเร็จของคุณ ลองมองใหม่สิครับ ปรับมุมมองใหม่ ธุรกิจเครือข่ายบนอินเตอร์เน็ต ไม่มีเรื่องอะไรยุ่งยากเลย ผู้บริโภคที่ยังไม่เข้าใจเครือข่าย ยังมีอีกนับสิบล้านคน

ผู้บริโภคที่ยังไม่เป็นสมาชิกของเครือข่ายนับสิบล้านคน อีก สองสามปีข้างหน้า ผลประกอบการของกิฟฟารีน จะมีผลประกอบการถึง 5,000 ล้านบาท มันจะขี้เหร่ไหมครับ ถ้าคุณจะแบ่งเค้กตรงนี้มาสัก 100 ล้านบาท .....

ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เป็นเรื่องจริง ที่ง่าย ง่ายมาก ๆ ซะด้วยซ้ำไป ....

พอจะมองเห็นอะไรไหมครับ กิฟฟารีนเริ่มต้น 180 บาท แต่คุณสามารถสร้างผลประกอบการให้ธุรกิจคุณมีมูลค่านับ ร้อยล้านบาท และมันจะยังคงเติบโต ต่อไปเรื่อย ๆ

เพียงแต่วันนี้คุณลองทำธุรกิจด้วยมุมมองง่าย ๆ ทำธุรกิจแบบผู้ประกอบการ อย่าทำธุรกิจแบบคนรับเงินเดือนประจำ หรือคุณเป็นเพียงพนักงานขายของเอากำไรไปวัน ๆ ละกันครับ

เรื่อง ๆ ง่าย ๆ แบบนี้ อยู่ที่วันนี้คุณได้เริ่มต้นทำเรื่อง ง่าย ๆ หรือยัง

คุณซื้อบุหรี่สูบเดือนละกี่ซอง ซองละกี่บาท ในหนึ่งเดือน คุณซื้อบุหรี่ไปกี่บาท ?

คุณซื้อของฟุ่มเฟือยเดือนละกี่บาท ?

คุณซื้อขนมกินเดือนละกี่บาท ?

นั่นเป็นเรื่องของการดำเนินชีวิตของคุณ

หากแต่วันนี้หากคุณจะเริ่มสร้างธุรกิจ สักตัว ที่ลงทุนน้อย อัตราการขาดทุนเป็น 0, อัตราเสี่ยงเป็น 0 , และสามารถสร้างรายได้ไม่จำกัด , ผลงานสามารถสะสมได้ และที่สำคัญไม่กระทบงานประจำ หรือการดำเนินชีวิตของคุณเลย

คุณซื้อใบสมัครกิฟฟารีน 180 บาท (ลงทุนมากไปไหมครับ)

และอย่าลืมนะครับ กิฟฟารีน 180 บาท หรือ 180 ล้านบาท อยู่ที่มุมมอง และมุมคิดของคุณเอง ....

แปรงสีฟันเก่าที่กำลังจะถูกทิ้ง ลองนำมาประยุกต์เป็นอุปกรณ์แต่งเติมความงาม

เส้นผม...หลังจากคุณไดร์ผมเสร็จแล้ว อาจมีเส้นผมบางส่วนชี้ฟูอยู่ ป้ายเจลแต่งผมลงบนแปรงสีฟันเก่านี่แหละ แล้วลูบลงบนเส้นผมบริเวณนั้นเบาๆ เท่านี้ผมก็เรียบสวยไม่เสียทรง หรือคนที่ทำสีผมเองที่บ้าน สามารถใช้แปรงสีฟันเป็นอุปกรณืแต่งแต้มสีผมบริเวณโคนผม โดยไม่ต้องสวมถุงมือด้วย
คิ้ว...สาวๆคิ้วดกหลายท่านประสบปัญหาคิ้วยุ่งเหยิงไม่เป็นรูปทรง ลองฉีดสเปรย์แต่งผมลงบนแปรงสีฟันเล็กน้อย แล้วแปรงขนคิ้วให้เข้าที่ โดยเริ่มจากบริเวณกลางคิ้ว แล้วไล่เรียบไปทางหางคิ้วในทิศทางเดียวกับที่เส้นขนงอกขึ้นมา รับรองคิ้วจะเนี๊ยบตลอดวัน

มาสคาร่า...ถ้าปัดมาสคาร่าแล้วจับกันเป็นก้อนบนขนตา แก้ไขง่ายๆ เพียงใช้แปรงสีฟันแปรงขนตาอย่างเบามือที่สุด เจ้าก้อนเหล่านั้นจะหายไปในพริบตา

มรดกตกทอด

วันหน้า...ในอนาคต เมื่อท่านต้องการพักผ่อน ท่านสามารถส่งมอบ


• ทีมงานทั้งหมด ซึ่งบริโภคสินค้าด้วยความเป็นธรรมชาติ

• ตำแหน่งที่ท่านได้รับ

• รายได้ทั้งหมด

ให้แก่ทายาทของท่าน

กฎระเบียบการดำเนินธุรกิจกิฟฟารีน

ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง..ปกป้องสิทธิของคุณ


การเป็นสมาชิกกิฟฟารีน คือ โอกาสทางธุรกิจอันมีค่า ที่ให้หลักประกันความมั่นคงด้านการเงินระยะยาว นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสมาชิกกิฟฟารีนทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจของตนอย่างเต็มที่ และปฏิบัติตามกฎระเบียบที่บริษัทฯ กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

องค์ประกอบสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จก็คือ การดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง และเคารพในสิทธิ์ซึ่งกันและกัน เพื่อพิทักษ์สิทธิประโยชน์อันเท่าเทียมกันของตัวคุณเองและสมาชิกกิฟฟารีนทุกคน

ข้อพึงปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจกิฟฟารีน

1. พึงยึดมั่นในกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
“จงปฏิบัติต่อผู้อื่น ดังเช่นที่คุณปรารถนาจะให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อคุณ” สิ่งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของสมาชิกกิฟฟารีนทุกคน ที่ต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ทั้งการกระทำและจิตใจ การฝ่าฝืนกฎระเบียบจะนำมาสู่การเพิกถอนสถานภาพการเป็นสมาชิก

2. อย่าชักชวนผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนสมัครเป็นสมาชิก
ผู้สมัคร – ต้องมีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ เพราะต้องมีความรับผิดชอบในหลายๆ ด้าน เช่น การทำนิติกรรม, การบริหารองค์กร, การปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติและความรับผิดชอบด้านการเงิน

- กรณีของ สามีภรรยา ให้สมัครร่วมกัน โดยใช้รหัสสมาชิกเดียวกัน

- ผู้สมัครต้องไม่มีชื่อในทะเบียนสมาชิกของบริษัทฯ มาก่อน

3. อย่าชักชวนให้ผู้อื่นสมัครหรือซื้อสินค้าจำนวนมาก เพื่อหวังประโยชน์ทางธุรกิจโดยที่บุคคลนั้นๆ มิได้มีความต้องการอันแท้จริงที่จะบริโภคสินค้า

4. อย่าพูดเกินจริงถึงรายได้ที่จะได้รับจากธุรกิจกิฟฟารีน

จงแสดงแผนการขยายงานและแผนการตลาดของกิฟฟารีนอย่างชัดเจนและถูกต้อง พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าธุรกิจกิฟฟารีน คือ โอกาสในการเสริมสร้างผลงานที่สามารถบรรลุถึงเป้าหมาย นำมาซึ่งรายได้และความมั่นคงให้กับชีวิต ซึ่งต้องอาศัยองค์ประกอบที่สำคัญคือ การทำงานด้วย ความมานะพยายามและความตั้งใจจริง

5. อย่าขายตัดราคา
จงขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าตามราคาที่บริษัทฯ กำหนดไว้ในแคตตาล็อกอย่างเคร่งครัด การขายตัดราคาจะลดผลกำไรที่คุณควรได้รับอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อผู้ร่วมธุรกิจท่านอื่นๆ และจะก่อให้เกิดความสับสนต่อวงจรการดำเนินธุรกิจด้วย

6. ห้ามวางขายผลิตภัณฑ์ในห้างสรรพสินค้า ร้านค้า หรือสถานที่ที่เป็นการจงใจในการวางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งมิใช่เป็นสมาชิกกิฟฟารีน ทั้งนี้ เนื่องจากระบบการขยายงานของบริษัทฯเป็นการขายตรงหลายชั้น ซึ่งส่งเสริมการขายด้วยวิธีการแนะนำให้กับผู้มุ่งหวังเป็นหลัก การขายในสถานที่ดังกล่าวจะเป็นการทำลายระบบที่ถูกต้องในการขยายงาน และกระทบต่อผู้ร่วมธุรกิจท่านอื่นอีกด้วย

7. อย่าพูดเกินจริงถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
จงชี้แจงเรื่องของผลิตภัณฑ์ตามความเป็นจริงและเชื่อถือได้ พร้อมทั้งนำเสนอและสาธิตผลิตภัณฑ์ตามวิธีที่ได้รับการรับรองจากบริษัทฯ อย่างถูกต้อง กล่าวถึงคุณลักษณะและคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ตามที่ระบุไว้ในเอกสารสิ่งพิมพ์ หรือฉลากของผลิตภัณฑ์ และเหนือสิ่งอื่นใด การกล่าวถึงผลิตภัณฑ์จากประสบการณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว จะทำให้ลูกค้าเชื่อถือและได้รับผลดีในการแนะนำ

8. อย่าทอดทิ้งลูกค้า
จงบริการแก่ลูกค้าด้วยความรับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ เยี่ยมเยียนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า พร้อมทั้งหมั่นติดตามผลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่คุณขายให้ลูกค้าอยู่เสมอ พยายามทำให้ลูกค้าไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ ด้วยการมอบ บริการที่ดีและความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

9. ชักชวนเข้าร่วมธุรกิจ เมื่อคุณพร้อมจะรับผิดชอบ
จงให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำปรึกษา และแนะแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องแก่บุคคลในสายงานของคุณ พร้อมทั้งจัดการฝึกอบรมและจัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อเสริมสร้างกำลังใจในการทำงาน

10. อย่าพยายามเปลี่ยน หรือชักชวนผู้อื่นเปลี่ยนสายงาน
จงเคารพในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของสายงานแต่ละสายงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งในแผนการขายและแผนการตลาด รวมทั้งการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้มีการโอนสถานภาพการเป็นสมาชิกจากสายงานหนึ่งไปสู่อีกสายงานหนึ่ง เพราะจะนำมาซึ่งความขัดแย้งและเป็นผลเสียโดยรวมต่อวิถีทางที่ถูกต้องในการดำเนินธุรกิจ

11. อย่าอาศัยเครือข่ายของสมาชิก เป็นแหล่งขายผลิตภัณฑ์อื่น ที่มิใช่กิฟฟารีน
จงมุ่งจำหน่ายแต่ผลิตภัณฑ์กิฟฟารีนซึ่งมีการรับผิดชอบต่อผู้บริโภคอย่างเต็มที่ สมาชิกกิฟฟารีนดำรงสถานภาพในฐานะหุ้นส่วนสมาชิก ดังนั้น สมาชิกต้องไม่ช่วงชิงหรือตักตวงผลประโยชน์จากความรู้ หรือการติดต่อสัมพันธ์กับสมาชิกคนอื่นๆ ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่ใช่กิฟฟารีนอย่างเด็ดขาด

12. อย่าสั่งซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน ให้กับสมาชิกในสายงานอื่น
จงสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากแม่ทีมโดยตรงของคุณ หรือสั่งซื้อจากศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทุกสาขา และกิฟฟารีนเดลิเวอรี่, งานประชุมขายที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพราะจะมีผลโดยตรงต่อการคำนวณค่าคอมมิชชั่นของคุณ

13. อย่ากักตุนหรือบังคับให้ผู้อื่นกักตุนผลิตภัณฑ์
การกักตุนผลิตภัณฑ์ถือเป็นการดำเนินธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งไม่ควรบังคับให้สมาชิกในสายงานสำรองผลิตภัณฑ์ไว้มากกว่าจำนวนที่ขายได้ในแต่ละเดือน เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้คุณกำลังดำเนินธุรกิจในรูปแบบปิรามิดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

14. อย่าละเมิดสิทธิเรื่องเครื่องหมายการค้าของบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด, ผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน หากสมาชิกต้องากรใช้ชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าใดๆ ของบริษัทฯ โปรดขออนุญาต พร้อมทั้งได้รับการอนุมัติจากบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง

15. ระเบียบการแจ้งยอด การคิดค่าคอมมิชชั่น และการรับรางวัลเงินสด
- ผู้บริหารระดับ โกลด์สตาร์ขึ้นไปเท่านั้น ที่มีสิทธิ์ที่จะแจงตำแหน่งให้กับลูกทีมได้

- ยอดสั่งซื้อที่จะแจงให้กับลูกทีมหรือหลานทีมในการขึ้นตำแหน่ง จะต้องเป็นยอดสั่งซื้อทีมกลางโกลด์สตาร์เท่านั้น

- คอมมิชชั่น สมาชิกที่รักษายอด สามารถรับคอมมิชชั่นที่ศูนย์ธุรกิจที่ท่านใช้บริการอยู่

16. การโอนสิทธิของการเป็นสมาชิกกิฟฟารีน
- สมาชิกสามารถโอนสิทธิของการเป็นสมาชิกกิฟฟารีนให้กับผู้อื่นได้ ทั้งนี้ ผู้รับโอน คือผู้ที่ระบุไว้ในใบสมัครหรือญาติพี่น้องเท่านั้น และผู้รับโอนสิทธิต้องมีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไขของการสมัครสมาชิกใหม่ทุกประการ

- ทุกครั้งที่มีการโอนสถานภาพสมาชิกจะต้องได้รับการอนุมัติจากบริษัทก่อน และบริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการอนุมัตินั้น ทั้งนี้ขึ้นกับดุลยพินิจของบริษัทฯ และคณะกรรมการบริหารองค์กรสมาชิก

- กรณีสมาชิกเสียชีวิต บริษัทจะโอนมรดกทางธุรกิจให้กับทายาทหรือผู้ที่ถูกระบุชื่อในใบสมัคร

- ในการโอนสิทธินั้น ผู้รับโอนจะต้องดำรงสถานภาพอยู่ในตำแหน่งเดิมของสมาชิกผู้โอนสิทธิให้ทุกประการ

- เมื่อโอนสิทธิในการเป็นสมาชิกให้ผู้อื่นแล้ว ผู้โอนไม่มีสิทธิ์สมัครใหม่กับสายงานอื่น

17. การยกเลิกธุรกิจ
17.1 หากสมาชิกของบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด มีความประสงค์จะยกเลิกธุรกิจท่านสมาชิกมีสิทธิ์ที่จะคือสินค้าในสภาพที่ขายต่อได้ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย ชุดคู่มือหรืออุปกรณ์ส่งเสริมธุรกิจมายังบริษัทฯ โดยจะต้องเป็นสิ่งที่ซื้อจากบริษัทฯ ภายในเวลา 30 วัน นับก่อนวันที่ท่านแจ้งยกเลิกธุรกิจ และบริษัทฯ จะดำเนินการคืนเงินแก่สมาชิก ภายในเวลา 15 วัน นับแต่วันที่สมาชิกใช้สิทธิคืน ทั้งนี้บริษัทฯ มีสิทธิ์หักค่าดำเนินการได้ไม่เกินอัตราที่คณะกรรมการประกาศกำหนด และมีสิทธิหักลบกลบหนี้ใดๆ อันเกี่ยวกับสัญญาตามมาตรา 23 ของพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ที่ผู้จำหน่ายอิสระจะต้องชำระได้

17.2 เมื่อท่านสมาชิกยกเลิกการทำธุรกิจกับ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด แล้ว เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาจากการแย่งสายงาน ทางบริษัทฯ จึงมีกำหนดเกณฑ์ในการยกเลิกธุรกิจเพื่อความเหมาะสม ดังนี้

- สมาชิกระดับสตาร์ – บรอนซ์สตาร์ หากประสงค์จะยกเลิกธุรกิจ จะไม่สามารถสมัครเข้าร่วมธุรกิจใหม่ได้ภายในเวลา 6 เดือน สมาชิกระดับซิลเวอร์สตาร์ – โกลด์สตาร์ หากประสงค์จะยกเลิกธุรกิจ จะไม่สามารถเข้าร่วมธุรกิจใหม่ได้ในระยะเวลา 1 ปี

- สมาชิกระดับเมอร์คิวรี่ขึ้นไป หากประสงค์จะยกเลิกธุรกิจ จะไม่สามารถเข้าร่วมธุรกิจใหม่ได้ตลอดไป

18. การจำหน่ายสินค้า
18.1 เมื่อมีการจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภค ซึ่งมิใช่สมาชิกด้วยกัน จะต้องมีเอกสารสัญญาซื้อขายที่ถูกต้อง ซึ่งมีจำหน่าย ณ ที่ทำการบริษัท อันมีสาระสำคัญว่าจะต้องมีการรับประกันความพึงพอใจ และรับคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน โดยสมาชิกจะต้องคืนเงินเต็มจำนวนให้ผู้บริโภค และนำสินค้ากลับคืนมายังบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะทำการคืนเงินให้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับคืนสินค้า ทั้งนี้ บริษัทมีสิทธิหักค่าดำเนินการและผลประโยชน์ที่ได้จ่ายไปแล้ว ไม่เกินอัตราที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

18.2 ในการเข้าไปติดต่อเพื่อเสนอขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือผู้อื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระ สมาชิกหรือผู้จำหน่ายอิสระ จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้บริโภคหรือผู้ครอบครองสถานที่นั้นก่อน และต้องไม่กระทำการอันเป็นการรบกวนหรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่บุคคลดังกล่าว ในการนี้สมาชิกหรือผู้จำหน่ายอิสระต้องแสดงบัตรประจำตัวประชนและบัตรประจำตัวสมาชิก หรือบัตรประจำตัวผู้จำหน่ายอิสระซึ่งออกโดย บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด

19. การเพิกถอนสถานภาพการเป็นสมาชิกกิฟฟารีน
บริษัทฯ จะยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสมาชิก เพื่อเป็นการเพิกถอนสถานภาพการเป็นสมาชิก หากเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งหรือมากกว่าดังนี้

19.1 สมาชิกให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงในใบสมัคร

19.2 กรณีที่สมาชิกแสดงข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ ผลิตภัณฑ์ หรือแผนการตลาดอย่างบิดเบือนอย่างร้ายแรง และไม่อาจแก้ไขด้วยบทลงโทษอื่นๆ

19.3 กรณีที่สมาชิกฝ่าฝืนกฎข้อใดข้อหนึ่ง และไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎนั้นภายใน 14 วัน

19.4 รบกวนองค์กรสมาชิก ทั้งในสายงานตนเองและสายงานอื่น

19.5 ให้ร้าย หรือทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรและบริษัทฯ

19.6 กรณีที่ฝ่าฝืนกฎบ่อยครั้ง

ทั้งนี้ การเพิกถอนจะสมบูรณ์ได้ เมื่อผ่านมติของคณะกรรมการผู้บริหารองค์กรสมาชิกแล้ว

(การเพิกถอน หมายถึง การสิ้นสุดและระงับสถานภาพการเป็นสมาชิกของบุคคลหนึ่งอย่างสมบูรณ์ พร้อมกับสิทธิที่จะได้รับรายได้อื่นใดจากการเป็นสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นแล้วหรือเพิ่มพูนขึ้นก่อนหรือหลังการเพิกถอนนั้น และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่แจ้งให้สมาชิกที่เกี่ยวข้องทราบเป็นลายลักษณ์อักษร)

20. การกระทำของสมาชิก อันจะนำไปสู่มาตรการลงโทษ

- สมาชิกฝ่าฝืนกฎระเบียบและข้อปฎิบัติของบริษัทฯ

- สมาชิกได้กระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียต่อบริษัทฯ หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ

- สมาชิกกระทำการอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ เสียหายในการประกอบกิจการ

- สมาชิกได้แจ้งหรือแสดงข้อมูลเกี่ยวกับตัวสมาชิก หรือข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

21. มาตรการลงโทษ
ขั้นที่ 1 ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร

ขั้นที่ 2 งดรับการรักษายอดในเดือนนั้นๆ และไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นในเดือนนั้นๆ ด้วยเช่นกัน

ขั้นที่ 3 ปลดออกจากการเป็นสมาชิก

(บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิที่จะปลดสมาชิกผู้ใดผู้หนึ่งตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร เมื่อบริษัทฯ พิสูจน์ได้หรือมีเหตุ อันควรเชื่อถือได้ว่ามีพฤติกรรมตามข้อ 19 โดยสมาชิกที่ถูกปลดออกจะได้รับแจ้งจากทางบริษัทฯ เป็นลายลักษณ์อักษรไปยังที่อยู่ล่าสุดของสมาชิกที่ได้แจ้งไว้แก่บริษัทฯ) มาตรการลงโทษนี้ บริษัทฯ จะเป็นผู้กำหนดบทลงโทษโดยวิธีใดตามดุลยพินิจ

22. ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
เนื่องจากผลิตภัณฑ์เคมีเกษตรดังต่อไปนี้ ปุ๋ยเกร็ดโกรแม็กซ์ ท็อป-เอ็น เทอร์โบ-แม็กซ์ แมกนีเซีย เม้กก้า-ซิงค์ โบโรแคล ไบรท์กรีน โมเด็ม ลิควิดไอออน เจอร์มิเนท ซิงโคไซค์ ฟารีนเอสซี ซิลทาไซด์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องจัดจำหน่ายในศูนย์ธุรกิจที่ขออนุญาตจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเท่านั้น ดังนั้นสมาชิกผู้บริโภคต้องมาซื้อได้ในศูนย์ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ไม่สามารถนำไปจำหน่ายนอกสถานที่ได้

** กฎระเบียบบริษัทฯ ทั้งหมดนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม **

ทำไมต้องกิฟฟารีน

กิฟฟารีน


• มี Licence of Network และมีการคุ้มครองลิขสิทธิ์เครือข่าย (Protection of Network) อย่างสมบูรณ์แบบ

• มีความชัดเจนในการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบรนด์ของธุรกิจและแบรนด์ของผลิตภัณฑ์

• มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกเศรษฐานะ และมีแนวทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์อันเป็นที่ยอมรับโดยสากล (มีการแสดงแหล่งที่มาของวัตถุดิบและมีผลงานวิจัยหลายผลงานรับรอง) โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทในเครือ

• มีผลประกอบการที่สามารถอธิบายถึงการเติบโตในอนาคต โดยปี 2551 มียอดจำหน่ายสูงถึง 4,155 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 6.21% จากปีที่ผ่านมา

• ให้ผลตอบแทนคืนกลับแก่นักธุรกิจสูงที่สุดในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายถึงปัจจุบันกว่า 33,000 ล้านบาท และมอบรายได้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 14,000 ล้านบาท (ณ กพ. 2551)

• ได้ทำการเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าในส่วนของเงินปันผลแทนนักธุรกิจ

• สร้างโอกาสอันเป็นไปได้จริงของมรดกตกทอดที่มอบให้แก่ทายาทนักธุรกิจเครือข่าย

• มีระบบสนับสนุนทางการตลาดที่เปี่ยมประสิทธิภาพ

เช่น -สถาบันพัฒนานักธุรกิจอิสระกิฟฟารีน

- ศูนย์ธุรกิจพร้อมห้องประชุมกว่า 100 สาขา และมีศูนย์กิฟฟารีน ไลเซนส์ ช็อป ทั้งหมด 7 สาขา เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของนักธุรกิจทั่วประเทศ

- การแสดงผลการตรวจสอบคุณภาพเครือข่าย (Network Monitoring) เพื่อให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถ ตรวจสอบวิเคราะห์และสามารถติดตามคุณภาพของเครือข่ายได้ จึงทำให้นักธุรกิจกิฟฟารีนประสบความสำเร็จโดยมีต้นทุนในการทำงานที่น้อยที่สุด

กิฟฟารีน มีการจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพมาตรฐานสากลในราคาที่ยุติธรรมกว่า 2,000 รายการ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ สามารถซื้อใช้และซื้อซ้ำได้ตลอดไป อันเป็นที่มาของรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนและเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาททางธุรกิจอย่างแท้จริง

ธุรกิจกิฟฟารีน...ความสำเร็จที่มาจากเหตุผล

• แนวคิดในการทำธุรกิจที่สอดคล้องกับลักษณะนิสัย และการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทย โดยมีแนวคิดที่จะเชิญคนไทยมาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ด้วยการซื้อสินค้าใช้ในชีวิตประจำวันในบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของ และได้รับผลตอบแทนกลับคืนเป็นจำนวนสูงสุดถึง 47-50%

• เป็นโอกาสของนักธุรกิจที่จะขยายตลาดได้ง่ายต่อเนื่อง และมั่นคง ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพกว่า 2,000 รายการ ที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของคนไทยทุกกลุ่ม ทำให้สามารถบริโภคได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ รวมถึงส่งออกไปจำหน่ายกว่า 30 ประเทศทั่วโลก จากโรงงานของกิฟฟารีนที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล

• ได้รับผลตอบแทนในการทำธุรกิจที่คุ้มค่า-ยุติธรรมปราศจากความเสี่ยง จากเงินลงทุนเพียง 180 บาท และแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ทำได้โดยง่าย ไม่สร้างความกดดันให้แก่ผู้ร่วมธุรกิจ และเป็นบริษัทเดียวที่มีการเสียภาษีอัตราก้าวหน้าในส่วนของเงินปันผลแทนสมาชิก

• ประสบความสำเร็จด้วยระบบสนับสนุนทางการตลาดที่เปี่ยมประสิทธิภาพของกิฟฟารีน โดยบริษัทฯมี การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โฆษณา ประชาสัมพันธ์ในสื่อทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังีการให้บริการธุรกรรม และจัดฝึกอบรมในศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศกว่า 97 สาขา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้นักธุรกิจกิฟฟารีนมีต้นทุนในการบริหารจัดการที่น้อยที่สุด

กิฟฟารีนจะเชิญคนไทยมาเป็น “ผู้ใช้สินค้า” ไม่ใช่ “ผู้ขาย”
กิฟฟารีนจะเชิญคนไทยมาเป็นนักธุรกิจเครือข่าย ด้วยการให้นักธุรกิจกิฟฟารีนเริ่มต้นเชิญคนที่เขามีความคุ้นเคยมาเป็นผู้ใช้สินค้าและนักธุรกิจเครือข่าย ด้วยการมีแนวคิด, คำพูด และการกระทำที่เหมือนๆกัน ( Imitation) ตลอดจนส่งต่อ เรื่องราวของเครือข่ายไปเป็นลำดับชั้น( Duplication )

ด้วยวิธีนี้ เราจึงเชื่อมั่นว่า คนไทยทุกคนจะสามารถเริ่มต้นงานเครือข่ายกับกิฟฟารีนด้วยความสบายใจ ไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากไม่ต้องลงทุน และไม่เปลี่ยนวิถีชีวิต ตลอดจนไม่รบกวนงานประจำที่ได้ทำอยู่ แม้ว่าจะต้องการรายได้จากธุรกิจที่มากมายพอสมควร ก็สามารถบริหารเวลาและทำควบคู่กับงานประจำได้

ที่กิฟฟารีนเราเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน

...เมื่อ 13 ปีที่แล้ว กิฟฟารีน ธุรกิจของคนไทย ได้ถือกำเนิดขึ้น พร้อมกับแนวคิดที่จะเชิญ "คนไทยทุกคน" มาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของเรา วันนี้เรามีหุ้นส่วนทางธุรกิจถึง 300,000 คน และมีผู้บริโภคสินค้าอย่างสม่ำเสมอกว่า 5,150,000 คน โดยมีระบบสนับสนุนทางการตลาด ของบริษัทฯ ที่ทำให้นักธุรกิจ กิฟฟารีน มีต้นทุนในการบริหารน้อยที่สุด และมีความสำเร็จที่เป็นไปได้จริง จนถึงวันนี้ กิฟฟารีน ได้มอบรายได้ให้กับนักธุรกิจของเรา ไปแล้วกว่า 14,000 ล้านบาท จากผลประกอบการทั้งสิ้น 33,000 ล้านบาทหากคุณมองหาใครสักคนที่พร้อมจะเป็นหุ้นส่วนในชีวิต วันนี้เรามั่นใจและพร้อมที่จะสร้างความสำเร็จให้แก่คุณในฐานะ "เจ้าของที่แท้จริง" ของ กิฟฟารีน

ธุรกิจ MLM โอกาสแห่งความสำเร็จ
การทำตลาดระบบ MLM ทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้า การบริการและคำแนะนำที่ถูกต้องจาก“นักธุรกิจอิสระกิฟฟารีน” โดยระบบเครือข่าย MLM มีระเบียบแบบแผนที่ชัดเจน และการปันผลตอบแทนที่ยุติธรรม รวมถึงแผนประกันอุบัติภัยซึ่งถือเป็นธุรกิจเดียวที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง ไม่จำกัดความรู้ และไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ อีกทั้งยังเป็นงานสุจริตที่สามารถสร้างความสำเร็จและความมั่นคงมาให้ตนเองและครอบครัวได้

กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ กับ จรรยาบรรณขายตรงโลก
บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมการขายตรงไทย ซึ่งสังกัดสมาพันธ์การขายตรงโลก World Federation of Direct Selling Association (WFDSA) มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาวิชาชีพการขายตรงให้มีความก้าวหน้า เหมาะสมกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจ อีกทั้งยังต้องการเผยแพร่ธุรกิจขายตรงให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติ ประกอบด้วยสมาชิกสมาคมการขายโดยตรงจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 50ประเทศ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา

เหตุผลและข้อได้เปรียบในการทำธุรกิจกับกิฟฟารีน

1.ลงทุนน้อยมากๆ ค่าสมัครเพียง 180 บาท สมัครครั้งเดียว ทำธุรกิจได้ตลอดชีพ

2.สิทธิประโยชน์ในการซื้อสินค้ามากมายกว่า 2,000 รายการ ในราคาพิเศษสุดๆ ลด 25% พร้อมเริ่มต้นทำธุรกิจได้ทันที

3.ได้รับเว็บไซต์ขยายธุรกิจฟรี แค่มีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ท

4.ได้รับคุ้มครองประกันชีวิต 120,000 - 360,000 บาท

5.เป็นมรดกทางธุรกิจ ด้วยการส่งมอบให้แก่ทายาทได้ในอนาคตด้วย

6.จัดกิจกรรมทางการตลาด และส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง มอบรางวัลท่องเที่ยวต่างประเทศแก่ตัวแทนที่มีผลงานยอดเยี่ยม เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน

7.ทำร่วมกับงานประจำได้ เพียงจัดสรรเวลาวันละ 2-3 ชั่วโมง ในการสร้างเครือข่ายผู้บริโภคสินค้า และติดตามดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการคืนกลับมาของรายได้ที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

8.ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ และสามารถเข้ารับการอบรมกับสถาบันพัฒนานักธุรกิจกิฟฟารีน ที่พร้อมจะถ่ายทอดประสบการณ์ตรง และหลักวิธีการทำธุรกิจที่ชัดเจน โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญได้เป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นสถาบันพัฒนานักธุรกิจอิสระที่ดีที่สุด

9.ปราศจากความเสี่ยงในการลงทุน ด้วยศักยภาพของศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีน มากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ และการให้บริการจัดส่งสินค้า “Giffarine Delivery” จึงทำให้นักธุรกิจไม่ต้องลงทุนซื้อสินค้าครั้งละมากๆ หรือลงทุนเปิดศูนย์ธุรกิจเอง

10.ทำได้ไม่ยาก แม้ในผู้ที่ไม่ถนัดงานขาย เพราะธุรกิจกิฟฟารีน คือการบอกเล่าความประทับใจในตัวสินค้าที่ตนเองใช้ให้แก่คนรอบข้าง เพื่อสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ให้เกิดการซื้อสินค้าใช้ในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง

11.ได้เป็นเจ้าของกิจการ ด้วยการเป็นเจ้าของศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนมากกว่า 100 สาขา ที่มีสินค้าคุณภาพจำหน่ายกว่า 2,000 รายการ โดยสามารถบริหารจัดการองค์กรของตนเองอย่างเป็นอิสระ และได้รับการสนับสนุนทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีรายได้และสร้างกำไรนับตั้งแต่เดือนแรกที่ทำธุรกิจ

12.มีรายได้ที่ดีในระยะเวลาอันสั้น และมั่นคงในระยะยาว ด้วยแผนการจ่ายผลตอบแทนที่คุ้มค่า ยุติธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย

13.มีความมั่นคงทางธุรกิจ บริษัทกิฟฟารีนฯ ก่อตั้งด้วยการลงทุนเงินสดจำนวน 100 ล้านบาท จึงปราศจากภาระหนี้สิน และมีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นทุกปี เราจึงมั่นใจว่า เราพร้อมที่จะนำพาทุกท่านสู่ความสำเร็จ ในฐานะ "เจ้าของธุรกิจ" กับกิฟฟารีน

14.กิฟฟารีนมีโรงงานผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลเป็นของตัวเอง สามารถควบคุมได้ทั้งคุณภาพและกำหนดราคาสินค้าได้อย่างยุติธรรมสมเหตุสมผล

15.แบรนด์กีฟฟารีนเป็นแบรนด์ซึ่งเป็นที่ยอมรับและครองใจผู้บริโภคมาเป็นเวลานาน มีการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หรือนิตยสารต่างๆ ซึ่งจะทำให้นักธุรกิจได้รับความสะดวกในการขยายงาน และไม่เปลืองเวลาในการนำเสนอให้คนรู้จักกิฟฟารีน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง
Google Groups
สมัครสมาชิก giffariner
อีเมล:
เยี่ยมชมกลุ่มนี้

I CAN DO YOU CAN DO

กิฟฟารีนออนไลน์ ทำง่าย รายได้ดี